1 00:00:02,000 --> 00:00:07,000 Downloaded from YTS.MX 2 00:00:08,000 --> 00:00:13,000 Official YIFY movies site: YTS.MX 3 00:00:33,920 --> 00:00:40,440 นานมาแล้ว ที่ราบแอฟริกาตะวันออก เคยเป็นบ้านของบรรพบุรุษห่างๆ ของเรา 4 00:00:47,000 --> 00:00:51,080 ด้วยเหตุผลที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจแน่ชัด บรรพบุรุษเหล่านั้นบางส่วน 5 00:00:51,680 --> 00:00:55,280 ได้ตัดสินใจไปจากที่นั่น มุ่งขึ้นเหนือ 6 00:00:55,880 --> 00:00:59,080 และกลายเป็นมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 7 00:01:04,840 --> 00:01:06,960 เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็มีจํานวนมากขึ้น 8 00:01:09,600 --> 00:01:15,200 อาณาเขตของพวกเขาขยายจากรัสเซีย ไปจนถึงชายฝั่งแอตแลนติก 9 00:01:21,160 --> 00:01:25,480 {\an8}กลุ่มเล็กๆ ที่ท่องเที่ยวไป ทั่วถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่นี้ 10 00:01:30,280 --> 00:01:36,040 เอาชีวิตรอดผ่านความยากลําบากมาได้ นานกว่าสามแสนปี 11 00:01:36,800 --> 00:01:38,200 จนกระทั่งจู่ๆ 12 00:01:39,360 --> 00:01:40,480 พวกเขาก็สาบสูญไป 13 00:01:45,320 --> 00:01:49,200 {\an8}มีสถานที่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่ซากของพวกเขายังคงอยู่ 14 00:01:50,000 --> 00:01:52,120 และหนึ่งในที่ที่สําคัญที่สุด 15 00:01:53,000 --> 00:01:54,960 ถูกพบในตะวันออกกลาง 16 00:01:55,480 --> 00:01:58,040 ขุมสมบัติทางโบราณคดี 17 00:01:58,040 --> 00:02:01,080 {\an8}ซ่อนตัวอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาเคอร์ดิสถาน 18 00:02:02,000 --> 00:02:03,960 {\an8}ถ้ําชานิดาร์ 19 00:02:09,440 --> 00:02:11,080 ถ้ําชานิดาร์ 20 00:02:11,080 --> 00:02:16,800 นับได้ว่าเป็นหนึ่งในถ้ํา ที่ได้รับการเคารพมากที่สุดในโลก 21 00:02:17,760 --> 00:02:20,840 ในยุคของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล และโฮโมเซเปียนส์ 22 00:02:21,640 --> 00:02:27,640 ในสถานที่ซึ่งชีวิตดํารงอยู่อย่างต่อเนื่อง 23 00:02:27,640 --> 00:02:30,640 เราอาจค้นพบคําตอบของคําถามต่างๆ 24 00:02:31,640 --> 00:02:34,240 คําถามที่ยังคงเป็นปริศนา 25 00:02:37,320 --> 00:02:39,800 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลคือใคร 26 00:02:41,160 --> 00:02:44,600 อะไรทําให้พวกเขาอยู่รอดมาได้เนิ่นนาน 27 00:02:45,800 --> 00:02:50,240 และที่น่าฉงนที่สุด ทําไมพวกเขาถึงหายไป 28 00:02:51,760 --> 00:02:55,720 ความลับของนีแอนเดอร์ทาล 29 00:03:19,680 --> 00:03:22,680 ถ้ําชานิดาร์ตั้งอยู่เชิงเขาของเทือกเขาแบรดอสต์ 30 00:03:22,680 --> 00:03:26,240 แต่การเรียกว่าเชิงเขา ก็อาจไม่ได้ทําให้เห็นภาพที่ถูกต้องนัก 31 00:03:28,520 --> 00:03:32,680 พื้นที่นั้นให้ความรู้สึกเป็นภูเขา มีลักษณะขรุขระและลาดชัน 32 00:03:35,160 --> 00:03:39,640 ถ้ําชานิดาร์ทําให้คนประทับใจกับ ขนาดและความใหญ่โตของถ้ํา 33 00:03:42,280 --> 00:03:46,480 คุณต้องเข้าไปจากด้านล่าง และมันน่าทึ่งมาก 34 00:03:50,240 --> 00:03:51,800 ใหญ่โตมโหฬารจริงๆ 35 00:03:51,800 --> 00:03:55,400 ปากถ้ํากว้างมาก ทําให้มีแสงส่องเข้าไปมาก 36 00:03:57,440 --> 00:04:01,000 มีนกนางแอ่นบินอยู่เหนือหัว 37 00:04:01,000 --> 00:04:04,240 นกอินทรีบินวนอยู่ข้างบน กลางคืนมีหมาป่าหอนรับกัน 38 00:04:04,240 --> 00:04:06,760 เป็นสถานที่ที่น่าทึ่งจริงๆ 39 00:04:08,800 --> 00:04:13,800 {\an8}และการได้เป็นคนที่เข้ามาขุดถ้ํานี้ 40 00:04:13,800 --> 00:04:16,200 {\an8}เป็นประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาเลย 41 00:04:17,760 --> 00:04:21,160 เอ็มม่าอยู่ในทีมนักโบราณคดีชาวอังกฤษ 42 00:04:21,160 --> 00:04:25,680 ที่ได้รับเชิญจากเพื่อนร่วมงานชาวเคิร์ด ให้มาสานต่องานในถ้ํา 43 00:04:27,640 --> 00:04:32,400 ถ้ําชานิดาร์มีความสําคัญอย่างยิ่ง ในประวัติศาสตร์การศึกษามนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 44 00:04:33,200 --> 00:04:37,200 และมีบทบาทสําคัญ ในการทําให้เราต้องคิดทบทวนใหม่ 45 00:04:37,200 --> 00:04:39,320 ว่าในอดีตมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลทําอะไร 46 00:04:39,320 --> 00:04:42,000 พวกเขาหน้าตาเป็นยังไง พวกเขามีความสามารถอะไรบ้าง 47 00:04:43,960 --> 00:04:47,840 เป้าหมายของโครงการใหม่นี้คือการนํา 48 00:04:47,840 --> 00:04:51,760 องค์ความรู้ของวิทยาศาสตร์ทางโบราณคดี ทั้งหมดที่เรามีตอนนี้มาใช้ 49 00:04:51,760 --> 00:04:55,240 เพื่อให้ได้ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 50 00:04:57,320 --> 00:05:02,080 ท้องร่องนี้ไม่มีการขุดค้นมาตั้งแต่ยุค 1960 51 00:05:02,600 --> 00:05:03,960 และตั้งแต่ยุคนั้นมา 52 00:05:03,960 --> 00:05:10,120 วิธีการคิดของเรา เกี่ยวกับมนุษย์ที่ใกล้ชิดกับเราที่สุด เปลี่ยนไปมาก 53 00:05:11,600 --> 00:05:14,720 เรายังคงใช้คําว่านีแอนเดอร์ทาล ในการบรรยายถึงคนที่ 54 00:05:14,720 --> 00:05:16,560 คนอื่นมองว่าเซ่อซ่า 55 00:05:16,560 --> 00:05:19,800 มันยังคงถูกใช้เป็นคําด่าทอในสํานวนทั่วไป 56 00:05:19,800 --> 00:05:21,680 "หมอนี่นีแอนเดอร์ทาลของแท้" 57 00:05:21,680 --> 00:05:27,160 ในทางโบราณคดี พวกเขามีความคล้ายคลึง กับโฮโมเซเปียนส์มากขึ้นเรื่อยๆ 58 00:05:27,160 --> 00:05:32,640 {\an8}และการพิจารณาใหม่ส่วนใหญ่มีต้นทางมาจาก 59 00:05:32,640 --> 00:05:36,080 {\an8}งานที่ราล์ฟ โซเลกกีได้ทําในถ้ําชานิดาร์ 60 00:05:40,360 --> 00:05:42,840 (อิรัก) 61 00:05:42,840 --> 00:05:46,320 {\an8}ราล์ฟ โซเลกกีเกิดปี 1917 62 00:05:46,320 --> 00:05:48,800 เขาเสียไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ในวัยชราภาพ 63 00:05:49,360 --> 00:05:51,200 เขาเป็นคนแกร่งมาก 64 00:05:53,320 --> 00:05:56,160 เขาเคยไปยืนอยู่บนทุ่นระเบิด ในสงครามโลกครั้งที่สอง 65 00:05:56,160 --> 00:05:58,240 และรอดมาได้โดยปาฏิหาริย์ 66 00:06:00,840 --> 00:06:04,160 เขาเป็นคนที่น่าทึ่งมากๆ 67 00:06:05,800 --> 00:06:09,080 ผมไม่รู้แน่ชัดว่าเขาได้ยินเรื่องชานิดาร์ได้ยังไง 68 00:06:10,120 --> 00:06:17,120 {\an8}แต่เขามาที่นี่และทํางานที่นี่ ยาวนานห้าฤดูกาล ระหว่างปี 1951 ถึง 1960 69 00:06:23,200 --> 00:06:24,880 เขาวางคูขุดค้น 70 00:06:24,880 --> 00:06:28,720 พาดยาวจากเหนือไปใต้ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของถ้ํา 71 00:06:35,440 --> 00:06:38,160 สาเหตุที่สถานที่ขุดค้นนี้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง 72 00:06:38,160 --> 00:06:42,960 ก็เพราะเขาค้นพบ ชายหญิงและเด็กนีแอนเดอร์ทาลจํานวนสิบคน 73 00:06:55,840 --> 00:06:58,960 {\an8}(อับดุลละฮ์ บาร์ซานี) 74 00:06:58,960 --> 00:07:00,720 ในตอนนั้น 75 00:07:01,760 --> 00:07:03,760 เรายังเด็ก 76 00:07:07,320 --> 00:07:09,640 ผมอายุประมาณ... 77 00:07:11,080 --> 00:07:12,880 สิบเจ็ด หรือ 18 ปี 78 00:07:16,800 --> 00:07:18,800 ด็อกเตอร์สอนเรา 79 00:07:21,400 --> 00:07:24,320 มีหินออกมาจากถ้ํานั้นหลายก้อน หินขนาดใหญ่ 80 00:07:25,040 --> 00:07:26,480 พวกเขาใช้ระเบิด 81 00:07:35,360 --> 00:07:39,560 พวกเขาเจอโครงกระดูกมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล เป็นเรื่องสําคัญทีเดียว 82 00:07:42,920 --> 00:07:46,760 ซี่โครงและกระดูกของพวกเขาหนามาก 83 00:07:47,440 --> 00:07:49,760 ศีรษะของพวกเขาก็ใหญ่มาก 84 00:07:53,160 --> 00:07:54,600 มือของพวกเขา 85 00:07:55,600 --> 00:07:57,760 ทุกส่วนของพวกเขาช่างน่าตะลึง 86 00:07:59,200 --> 00:08:03,000 นั่นคือการค้นพบครั้งใหญ่ครั้งแรกของโซเลกกี 87 00:08:03,720 --> 00:08:06,320 เขาตั้งชื่อมันว่า ชานิดาร์หนึ่ง 88 00:08:07,240 --> 00:08:11,320 โครงกระดูกจากเผ่าพันธุ์ที่ต่างกับเรามาก 89 00:08:15,880 --> 00:08:19,000 พวกเขามีลักษณะที่แข็งแกร่งกว่า 90 00:08:19,000 --> 00:08:21,920 โหนกคิ้วใหญ่ กะโหลกมีรูปทรงต่างออกไป 91 00:08:21,920 --> 00:08:23,680 ในขณะที่เรามีกะโหลกที่โค้งมนมากๆ 92 00:08:23,680 --> 00:08:25,240 พวกเขากํายํา 93 00:08:26,400 --> 00:08:30,280 เราสันนิษฐานว่าพวกเขาต้องมีภาษาไว้สื่อสาร 94 00:08:32,240 --> 00:08:33,960 ยิ่งเรารู้เรื่องพวกเขามากขึ้น 95 00:08:33,960 --> 00:08:37,000 ก็ยิ่งชัดเจนว่า พวกเขาซับซ้อน 96 00:08:37,000 --> 00:08:40,000 กว่าที่เราคิดไว้เมื่อ 40 หรือ 50 ปีก่อนมาก 97 00:08:44,680 --> 00:08:47,360 เราเรียกมันว่าต้นไม้แห่งชีวิต 98 00:08:48,240 --> 00:08:49,960 มนุษย์ทุกคน สัตว์ทุกตัว 99 00:08:50,920 --> 00:08:54,080 กลายมาเป็นกิ่งก้านบนต้นไม้แห่งชีวิต 100 00:08:54,080 --> 00:08:56,440 {\an8}(อับดุลวาฮับ สุไลมาน ฮาซาน นักโบราณคดี) 101 00:08:56,440 --> 00:08:58,880 {\an8}(ผู้อํานวยการ ฝ่ายโบราณวัตถุและมรดกประจําโซรัน) 102 00:08:58,880 --> 00:09:03,800 เราเป็นหนึ่งในกิ่งก้านเหล่านั้น มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลก็เป็นอีกกิ่งก้านหนึ่ง 103 00:09:06,080 --> 00:09:08,640 เราแตกกิ่งก้านแยกจากกัน ที่จุดใดจุดหนึ่ง 104 00:09:10,560 --> 00:09:12,880 ผมรู้สึกจริงๆ 105 00:09:13,440 --> 00:09:17,960 ว่ากําลังนั่งอยู่บนซากศพของญาติพี่น้อง 106 00:09:24,800 --> 00:09:29,160 ตอนนี้เราอยู่ห่างจากผิวถ้ําราวๆ สี่เมตรครึ่ง 107 00:09:29,840 --> 00:09:32,600 นี่คือประมาณ 45,000 ปีก่อน 108 00:09:33,280 --> 00:09:35,840 นี่คือระดับที่เราได้เจอ 109 00:09:35,840 --> 00:09:38,680 ชานิดาร์หนึ่งที่ถูกฝังหรือทับถมอยู่ 110 00:09:41,600 --> 00:09:46,040 {\an8}(ชานิดาร์หนึ่ง) 111 00:09:46,800 --> 00:09:50,000 {\an8}(ตายเมื่อ 45,000 ปีก่อน) 112 00:09:50,920 --> 00:09:54,080 เขาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะด้านขวา 113 00:09:58,800 --> 00:10:00,600 แล้วก็ที่ตาข้างซ้ายด้วย 114 00:10:00,600 --> 00:10:03,240 ซึ่งตาข้างนั้นของเขาน่าจะบอดไปเลย 115 00:10:03,240 --> 00:10:06,120 และอาจเชื่อมโยงกับการบาดเจ็บที่จุดอื่นด้วย 116 00:10:18,760 --> 00:10:21,520 นอกจากนี้เขาก็เป็นอัมพาตที่แขนขวา 117 00:10:24,600 --> 00:10:29,480 และเคยแขนขวาหัก มากกว่าหนึ่งจุด 118 00:10:29,480 --> 00:10:30,680 แต่อีกทางหนึ่งก็ดูเหมือนว่า 119 00:10:30,680 --> 00:10:34,560 ส่วนล่างของแขนเขาถูกตัดออก โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม 120 00:10:34,560 --> 00:10:38,120 พูดง่ายๆ คือเขาไม่มีแขนขวา ตั้งแต่เหนือข้อศอกขึ้นมาเล็กน้อย 121 00:10:40,720 --> 00:10:45,040 แล้วก็มีการบาดเจ็บในที่อื่นๆ ด้วย เขาเป็นโรคข้ออักเสบที่เข่า ค่อนข้างรุนแรง 122 00:10:49,920 --> 00:10:52,240 กระดูกเท้าแตก 123 00:10:54,800 --> 00:10:57,520 แปลว่า ในเรื่องการล่าสัตว์ 124 00:10:57,520 --> 00:11:00,880 เขาอาจไม่สามารถล่าสัตว์ตามปกติธรรมดาได้ 125 00:11:00,880 --> 00:11:03,560 แต่เขาอยู่รอดได้จนอายุค่อนข้างมาก 126 00:11:12,400 --> 00:11:15,760 การค้นพบครั้งใหม่นี้ มีความหมายโดยนัยที่ลึกซึ้งมาก 127 00:11:20,600 --> 00:11:24,000 การค้นพบชานิดาร์หนึ่ง อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ได้ 128 00:11:24,000 --> 00:11:25,840 เพราะมันบอกเป็นนัยว่า บางที 129 00:11:25,840 --> 00:11:30,200 สังคมนีแอนเดอร์ทาล อาจมีการห่วงใยและเห็นใจกัน 130 00:11:32,440 --> 00:11:39,320 นี่คือหลักฐานว่าคนที่บาดเจ็บสาหัส ได้รับการดูแลจากคนในกลุ่ม 131 00:11:47,000 --> 00:11:53,600 และในไม่ช้า โซเลกกีก็พบอีกซากหนึ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราวน่าทึ่งไม่แพ้กัน 132 00:11:53,600 --> 00:11:57,920 {\an8}(ชานิดาร์สาม) 133 00:11:59,960 --> 00:12:04,360 {\an8}(ตายเมื่อ 45,000 ปีก่อน) 134 00:12:06,080 --> 00:12:09,480 ชานิดาร์สามเป็นชายวัยผู้ใหญ่อีกคน 135 00:12:10,400 --> 00:12:12,600 ซึ่งมีอาการบาดเจ็บเช่นกัน 136 00:12:12,600 --> 00:12:16,800 รวมถึงจุดที่ดูเหมือนแผลฉกรรจ์ บริเวณซี่โครง 137 00:12:17,920 --> 00:12:22,080 เครื่องย้ําเตือนที่แน่นหนัก ถึงความรุนแรงของชีวิตในยุคหินใหม่ 138 00:12:35,480 --> 00:12:40,400 ที่น่าสนใจคือ มีการค้นพบสิ่งประดิษฐ์ตามบริเวณอื่นๆ ภายในถ้ํา 139 00:12:40,400 --> 00:12:43,680 ซึ่งเป็นเบาะแสว่า ชานิดาร์สามมีชะตากรรมอย่างไร 140 00:12:44,840 --> 00:12:48,120 {\an8}นี่คือสิ่งประดิษฐ์บางส่วนที่เก็บกู้ได้จากถ้ําชานิดาร์ 141 00:12:49,080 --> 00:12:53,280 ชิ้นที่ใหญ่กว่านี้ เราเรียกว่า "แก่น" แก่นก็คือกรวดใหญ่ 142 00:12:53,280 --> 00:12:56,720 กรวดใหญ่ พูดง่ายๆ ก็คือหินก้อนกลมๆ ที่อาจจะมาจากแม่น้ํา 143 00:12:56,720 --> 00:13:00,080 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลเก็บก้อนหินนี้มา โดยตั้งใจจะกะเทาะให้มันเป็นชิ้นเล็ก 144 00:13:00,080 --> 00:13:04,120 เพื่อให้ตัวหินก้อนนี้กลายเป็นเครื่องมือ หรือเพื่อเอาหินชิ้นเล็กๆ ที่หลุดออกมา 145 00:13:04,120 --> 00:13:06,840 ซึ่งเราเรียกว่า "สะเก็ด" ไว้ใช้เป็นเครื่องมือ 146 00:13:06,840 --> 00:13:10,480 ทั้งหมดนี้หาได้ในแม่น้ําแซบ ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณสามกิโล 147 00:13:20,680 --> 00:13:24,000 ผมจะพยายามทําสิ่งที่คล้ายๆ กับหัวหอก 148 00:13:24,960 --> 00:13:26,640 ที่ผมจะทําก็คือ 149 00:13:27,880 --> 00:13:29,320 กะเทาะไปตามขอบ 150 00:13:30,800 --> 00:13:33,040 เอาชิ้นที่เล็กกว่าออก 151 00:13:33,040 --> 00:13:35,800 การทําแบบนี้คือการลับให้มันคมขึ้น 152 00:13:39,880 --> 00:13:41,920 ผมยังไม่ได้กะเทาะออกไปมากนัก 153 00:13:41,920 --> 00:13:44,960 แต่เราก็เห็นแล้วว่า หินก้อนนี้คมทีเดียว 154 00:13:46,440 --> 00:13:48,200 คมหอกแบบนี้ 155 00:13:48,200 --> 00:13:51,400 ใช้เวลาในการทําแค่ห้าหรือหกนาที 156 00:13:52,440 --> 00:13:54,840 นี่คืออาวุธร้ายแรง เมื่ออยู่ในมือของคนที่ใช้เป็น 157 00:13:54,840 --> 00:13:57,040 คนที่เข้าใจว่าตัวเองทําอะไรอยู่ 158 00:13:57,040 --> 00:13:58,440 และถืออะไรอยู่ในมือ 159 00:14:21,920 --> 00:14:24,880 หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของชานิดาร์สาม 160 00:14:24,880 --> 00:14:27,080 คือเขามีแผลถูกแทง 161 00:14:30,760 --> 00:14:36,080 ซึ่งบ่งชี้ว่าคมหินที่อยู่ปลายหอก หรืออะไรก็ตาม 162 00:14:36,080 --> 00:14:38,560 พุ่งจากระยะไกล มาแทงซี่โครงของเขา 163 00:14:38,560 --> 00:14:42,640 อาจแทงทะลุปอดและทําให้ปอดรั่วด้วยก็ได้ 164 00:15:14,400 --> 00:15:17,440 แผลที่ซี่โครงสอดคล้องกับแนวเส้นโค้ง 165 00:15:21,520 --> 00:15:24,160 พอจะนึกภาพการขว้างหอกออกไปได้ 166 00:15:33,760 --> 00:15:35,640 อาจเป็นอุบัติเหตุระหว่างการล่าสัตว์ 167 00:15:37,040 --> 00:15:39,680 อาจเป็นความรุนแรงระหว่างคน 168 00:15:44,280 --> 00:15:46,920 แต่สิ่งที่เราพูดได้ก็คือ เขามีบาดแผลตรงนี้ 169 00:15:46,920 --> 00:15:49,240 และเขาอยู่รอดต่อไปได้ระยะหนึ่ง 170 00:15:50,480 --> 00:15:53,640 และนั่นอาจบ่งชี้ว่า เขาได้รับการดูแล 171 00:15:53,640 --> 00:15:56,000 และการช่วยเหลือให้รอดจากการบาดเจ็บนั้น 172 00:16:03,360 --> 00:16:08,920 แม้จะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ดูเหมือนว่า ทั้งชานิดาร์สามและชานิดาร์หนึ่ง 173 00:16:08,920 --> 00:16:11,840 ได้รับการดูแลจากผู้คนที่อยู่รอบข้าง 174 00:16:17,040 --> 00:16:20,960 นี่เป็นมุมมองที่ใหม่โดยสิ้นเชิง เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 175 00:16:22,880 --> 00:16:24,200 และในที่อื่นๆ 176 00:16:24,200 --> 00:16:27,800 ก็พบหลักฐานพฤติกรรมของพวกเขามากขึ้น 177 00:16:27,800 --> 00:16:30,640 ในถ้ําที่อยู่ไกลออกไป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของชานิดาร์ 178 00:16:31,360 --> 00:16:37,680 (ซาเกร็บ โครเอเชีย) 179 00:16:42,160 --> 00:16:45,400 หลักฐานใหม่ทุกชิ้นที่เรามี เกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 180 00:16:46,560 --> 00:16:49,920 ที่จริงแล้วแสดงให้เราเห็นว่า พวกเขามีความเป็นมนุษย์แค่ไหน 181 00:16:56,200 --> 00:16:59,360 แต่พฤติกรรมของพวกเขาต่างจากพวกเรา 182 00:17:02,480 --> 00:17:05,760 พวกเขามีชีวิตอยู่ในโลกคนละใบกับเราเลย 183 00:17:21,880 --> 00:17:24,760 ชิ้นนี้ชุดเก็บรวบรวมคราปินา 184 00:17:27,520 --> 00:17:31,360 มีอายุประมาณ 130,000 ปี 185 00:17:31,360 --> 00:17:36,040 และเป็นชุดเก็บรวบรวมซากมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล ชุดใหญ่ที่สุดที่เก็บได้จากไซต์เดียว 186 00:17:40,400 --> 00:17:46,360 เราประเมินว่าอาจมาจาก มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลประมาณ 80 คน 187 00:17:47,840 --> 00:17:50,160 ไม่มีร่างที่ฝังไว้ทั้งร่างหรอกค่ะ 188 00:17:50,160 --> 00:17:54,880 มีแค่ส่วนเล็กส่วนน้อยจากแต่ละคน 189 00:17:54,880 --> 00:17:56,760 ซึ่งผิดไปจากปกติมาก 190 00:17:57,560 --> 00:17:58,920 {\an8}(ดาโวร์กา ราโดฟชิค) 191 00:17:58,920 --> 00:18:02,120 {\an8}(ผู้ดูแลชุดเก็บรวบรวมคาปรินา พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติโครเอเชีย) 192 00:18:06,640 --> 00:18:12,040 บนกระดูกในชุดคราปินา ทั้งส่วนกะโหลก หรือกระดูกศีรษะ และส่วนหลักกะโหลก 193 00:18:12,040 --> 00:18:16,440 คุณจะเห็นรอยบากที่เกิดจากมนุษย์หลายรอย 194 00:18:23,560 --> 00:18:27,640 นี่คือกระดูกหน้าแข้ง และมีความเป็นไปได้ 195 00:18:27,640 --> 00:18:30,920 ว่ามันถูกทําให้แตกโดยเจตนา ถูกทุบ 196 00:18:32,880 --> 00:18:38,000 คุณจะเห็นรอยบากตรงนี้ด้วย และแม้แต่รอยอื่นๆ ด้วย 197 00:18:39,240 --> 00:18:43,920 เหตุผลหนึ่งที่ใครอาจทุบกระดูกท่อนยาวๆ ให้แตก 198 00:18:43,920 --> 00:18:48,480 นั่นคือมันมีไขกระดูกอยู่ข้างใน 199 00:18:52,120 --> 00:18:58,400 นี่คือกระดูกน่องที่มีรอยที่น่าสนใจอีกรอย 200 00:18:58,400 --> 00:19:00,080 อยู่ที่ผิวของกระดูก 201 00:19:01,240 --> 00:19:04,600 ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในตอนที่ใครพยายามขูด 202 00:19:04,600 --> 00:19:10,040 เนื้อส่วนที่เหลือติดกระดูก หรือเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่เหลือติดกระดูก 203 00:19:10,040 --> 00:19:11,160 เหมือนที่เราทํา 204 00:19:11,160 --> 00:19:16,160 เวลาแทะกระดูกไก่ที่เรากินเป็นมื้อเที่ยง 205 00:19:28,040 --> 00:19:33,040 พอได้ยินว่าพวกเขากินกันเอง ในทันทีนั้นเรารู้สึก ช็อก 206 00:19:38,160 --> 00:19:42,360 แต่ก็มีคําถามนี้ด้วย "นี่คือการกินเนื้อพวกเดียวกันแบบไหน" 207 00:19:43,560 --> 00:19:45,080 มีความหมายกับพวกเขายังไง 208 00:20:03,160 --> 00:20:06,880 ดูนี่สิ เฉือนได้เหมือนมีดทําครัวเลย 209 00:20:08,800 --> 00:20:11,120 - แทบไม่ต้องออกแรง - ใช่ ง่ายมาก 210 00:20:11,840 --> 00:20:13,040 {\an8}(ดร.อันคิจา โอโรส เซอร์เชน) 211 00:20:13,040 --> 00:20:16,080 {\an8}(ผู้ร่วมวิจัย สถาบันวิทยาศาสตร์และศิลปะโครเอเชีย) 212 00:20:16,080 --> 00:20:22,120 การทําเครื่องมือต่างๆ ขึ้นมาอีกครั้ง การลองทําวิธีต่างๆ 213 00:20:22,120 --> 00:20:25,600 คือการที่เราพยายามคิดให้เหมือนคนพวกนั้น 214 00:20:25,600 --> 00:20:29,920 พยายามมองให้เห็นกระบวนการคิดที่อยู่เบื้องหลัง 215 00:20:30,800 --> 00:20:34,000 สิ่งที่ต่างกันคือ ของเรามีรอยบาก 216 00:20:34,000 --> 00:20:36,920 แค่ตรงที่ใกล้กับส่วนข้อต่อ 217 00:20:36,920 --> 00:20:40,400 และซากมนุษย์ในชุดคราปินา สิ่งที่แปลกคือ 218 00:20:40,400 --> 00:20:43,960 เราเห็นรอยบากลากไปตามกระดูกท่อนยาว 219 00:20:43,960 --> 00:20:47,160 ราวกับว่ามีใครขูดมันอย่างต่อเนื่อง 220 00:20:47,160 --> 00:20:48,080 ใช่ 221 00:20:49,320 --> 00:20:54,240 ฉันนึกภาพไม่ออก ว่าจะทําแบบนั้นกับคนรู้จักยังไงได้ลง 222 00:21:00,360 --> 00:21:04,520 นี่คือกะโหลกอันโด่งดัง คราปินาสาม 223 00:21:05,560 --> 00:21:11,440 นี่เป็นตัวอย่างกะโหลกที่สมบูรณ์ที่สุด 224 00:21:11,440 --> 00:21:16,160 ของชุดเก็บรวบรวมชุดนี้ และเป็นชิ้นเดียวที่มีใบหน้า 225 00:21:21,200 --> 00:21:24,040 เราเชื่อว่าคนคนนี้เป็นผู้หญิง 226 00:21:24,040 --> 00:21:27,240 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลวัยเยาว์ อายุช่วง 20 227 00:21:28,960 --> 00:21:31,680 สิ่งที่น่าสนใจมากก็คือกระดูกหน้าผาก 228 00:21:31,680 --> 00:21:36,640 มีรอยบากเป็นชุด สัก 40 รอยได้ 229 00:21:40,360 --> 00:21:43,000 ใจต้องนิ่งมาก 230 00:21:43,000 --> 00:21:47,800 ที่จะค่อยๆ ทํารอยบาก 40 รอยไว้ใกล้ๆ กันได้ 231 00:21:48,960 --> 00:21:51,320 ต่อให้พวกเขาจะแทะกินกระดูกพวกนี้ 232 00:21:51,320 --> 00:21:54,920 ฉันก็ไม่คิดว่าเป็นเพราะความหิวโหย 233 00:21:57,640 --> 00:22:00,600 จริงๆ แล้วนี่คือเป็นพฤติกรรมที่ซับซ้อน 234 00:22:09,840 --> 00:22:14,560 บางที การบริโภคเนื้อของบุคคลที่ตนรู้จัก 235 00:22:15,440 --> 00:22:20,880 อาจเป็นเพราะอยากได้คุณความดีบางอย่างก็ได้ บางอย่างที่เขาชื่นชมในตัวบุคคลนั้น 236 00:22:20,880 --> 00:22:23,800 ซึ่งเป็นคนที่เคยใช้ชีวิตร่วมด้วย 237 00:22:26,720 --> 00:22:29,400 ตัวอย่างทางชาติพันธุ์ที่เราเพิ่งได้รู้ 238 00:22:29,920 --> 00:22:33,640 เมื่อไม่นานมานี้ คือคนบริโภคเนื้อของผู้เป็นที่รัก 239 00:22:33,640 --> 00:22:38,640 เพราะการบริโภคเนื้อของคนคนนั้น คือการพยายามเก็บเอาบางสิ่งบางอย่างไว้ 240 00:22:38,640 --> 00:22:43,680 ที่สามารถส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้ เป็นมรดกตกทอดแบบหนึ่ง 241 00:22:47,560 --> 00:22:51,040 ฉันไม่กล้าพูดว่า นี่แหละคือแรงผลักดัน 242 00:22:51,040 --> 00:22:53,840 ที่ทําให้มนุษย์นีแอนเดอร์ทาล มีพฤติกรรมเช่นนี้ 243 00:22:53,840 --> 00:22:55,520 แต่นั่นคือความเป็นไปได้อีกอย่าง 244 00:23:01,760 --> 00:23:07,560 การปฏิบัติต่อผู้ตายของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล เผยให้เห็นความซับซ้อนในการคิด 245 00:23:13,080 --> 00:23:15,560 และไม่มีที่ไหนที่จะทําความเข้าใจได้ดีไปกว่า 246 00:23:15,560 --> 00:23:19,000 การค้นพบที่โด่งดังที่สุดของราล์ฟ โซเลกกี 247 00:23:19,960 --> 00:23:25,800 ชานิดาร์สี่ หรือที่ผู้คนรู้จักกันในชื่อ "พิธีฝังดอกไม้" 248 00:23:30,160 --> 00:23:31,960 ในถ้ํานี้ 249 00:23:33,480 --> 00:23:36,960 เราพบซากมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลเก้าคน 250 00:23:36,960 --> 00:23:39,680 ซึ่งสองคนในนั้นสําคัญที่สุด 251 00:23:39,680 --> 00:23:44,120 {\an8}หมายเลขหนึ่งพบตรงนั้น ที่ความลึกประมาณห้าเมตร 252 00:23:44,120 --> 00:23:49,760 {\an8}และอีกหนึ่งตรงนี้ ชานิดาร์สี่ พบที่ความลึกประมาณเจ็ดเมตร 253 00:23:50,840 --> 00:23:54,440 {\an8}ราล์ฟ โซเลกกี คือนักโบราณคดีที่เก่งที่สุดในโลกคนหนึ่ง 254 00:23:54,440 --> 00:23:57,200 {\an8}เรื่องนั้นไม่มีข้อกังขา แถมเขาเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งมากด้วย 255 00:23:57,200 --> 00:24:03,840 สิ่งนี้อาจบ่งชี้ถึงสัญญาณแรกๆ ของวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณก็ได้ 256 00:24:04,360 --> 00:24:07,280 อาจเป็นการเริ่มมี ความรู้สึกทางศาสนาในช่วงแรกๆ 257 00:24:11,280 --> 00:24:13,720 {\an8}(ชานิดาร์สี่) 258 00:24:13,720 --> 00:24:17,800 {\an8}(พิธีฝังดอกไม้) 259 00:24:17,800 --> 00:24:22,720 {\an8}พิธีฝังดอกไม้คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่สําคัญมาก 260 00:24:22,720 --> 00:24:25,800 {\an8}เพราะนี่คือซากมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล ที่แทบจะสมบูรณ์ 261 00:24:25,800 --> 00:24:28,360 {\an8}ซึ่งหาได้ยากมาก 262 00:24:30,280 --> 00:24:33,520 และมีการเก็บตัวอย่างละอองเกสร 263 00:24:33,520 --> 00:24:36,800 ซึ่งในตอนนั้นเป็นการกระทําที่แหวกแนวมาก 264 00:24:36,800 --> 00:24:41,000 เราพบละอองเกสรที่สกัดได้จากดิน 265 00:24:41,000 --> 00:24:42,560 หน้าตาแบบนี้ 266 00:24:43,200 --> 00:24:47,400 และละอองเกสรนี้บ่งชี้ว่ามีดอกไม้แปดชนิดด้วยกัน 267 00:24:47,400 --> 00:24:50,560 ซึ่งเราคิดว่าถูกฝังไว้กับบุคคลนั้น 268 00:24:54,240 --> 00:24:57,560 เขาไม่ได้พูดถึงขนาดว่า "พวกเขาจัดพิธีศพ" 269 00:24:57,560 --> 00:25:00,840 แต่การเล่าเรื่องแบบนั้นก็ชวนให้คิดไปในทางนั้น 270 00:25:02,760 --> 00:25:06,920 {\an8}ในยุคน้ําแข็งครั้งสุดท้าย มีใครสักคนเดินย่ําไปตามเขา 271 00:25:06,920 --> 00:25:09,840 {\an8}ทําการเก็บดอกไม้ด้วยความเศร้าโศก 272 00:25:14,400 --> 00:25:19,480 ความเข้าใจของคนทั่วไป คือมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลมีชีวิตที่ไม่น่าพิสมัย 273 00:25:19,480 --> 00:25:22,920 เป็นคนอัปลักษณ์ ไม่มีความรู้สึกละเอียดอ่อน 274 00:25:22,920 --> 00:25:24,840 ไม่มีความคิดสูงส่ง 275 00:25:29,160 --> 00:25:32,680 แต่นี่คือคนที่อ่อนไหว ใส่ใจผู้อื่น 276 00:25:36,920 --> 00:25:38,880 และข่าวนี้ได้ลงหน้าหนึ่งทุกสํานัก 277 00:25:40,160 --> 00:25:43,760 เพราะนี่คือมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล ที่ร่ําไห้ เก็บรวบรวมดอกไม้ใบหญ้า 278 00:25:43,760 --> 00:25:47,640 จากไหล่เขาที่รายล้อม เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ตาย 279 00:25:58,920 --> 00:26:01,080 นี่คือ "บุฟผาชน" กลุ่มแรก 280 00:26:01,960 --> 00:26:05,880 การค้นพบที่ไม่เคยมีมาก่อน ในวงการโบราณคดี 281 00:26:44,600 --> 00:26:48,280 ในช่วงหลายปีหลังการค้นพบชานิดาร์สี่ 282 00:26:49,400 --> 00:26:53,040 ทฤษฎีพิธีฝังดอกไม้ก็เจอกระแสวิพากษ์ 283 00:27:01,120 --> 00:27:03,240 คนคนหนึ่งที่ศึกษาหนูเจอร์บิล 284 00:27:03,240 --> 00:27:07,440 ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก ขุดโพรงทํารัง คล้ายหนูแฮมสเตอร์แต่มีหาง 285 00:27:08,120 --> 00:27:12,720 เขาค้นพบว่าหนูเจอร์บิลเอาดอกไม้ ไปเก็บไว้ในโพรงเพื่อเป็นอาหาร 286 00:27:16,120 --> 00:27:18,840 นั่นคือการตีแสกหน้าในหลายๆ แง่ 287 00:27:18,840 --> 00:27:23,840 ยิ่งด้วยโซเลกกีเคยสังเกตเห็น สัตว์ชนิดขุดโพรงทํารังด้วย 288 00:27:27,800 --> 00:27:30,560 แต่ทีมค้นคว้าก็เจอหลักฐานชิ้นใหม่ที่แนะว่า 289 00:27:30,560 --> 00:27:33,720 โซเลกกีอาจจะคิดถูกส่วนหนึ่ง 290 00:27:35,040 --> 00:27:38,120 นี่คือภูมิประเทศที่มีสัตว์อย่างเช่นไฮยีน่า หมาป่า 291 00:27:38,120 --> 00:27:40,840 และเสือดาว ทุกวันนี้ก็ยังมี 292 00:27:40,840 --> 00:27:42,680 ถ้าพวกเขาทิ้งร่างไว้เฉยๆ 293 00:27:42,680 --> 00:27:46,040 ก็แทบจะแน่ใจได้เลย ว่าต้องมีตัวอะไรมากินแน่ 294 00:28:00,280 --> 00:28:05,280 นี่คือโครงกระดูกเต็มตัว ที่ไม่มีสัตว์มากัดกิน 295 00:28:07,880 --> 00:28:10,720 ซากเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองไว้ ในทางใดทางหนึ่ง 296 00:28:16,640 --> 00:28:22,840 ผมคาดเดาว่าพวกเขาอาจใช้กิ่งไม้ 297 00:28:24,240 --> 00:28:29,520 มาทําเป็นแนวกั้นที่สัตว์ป่าไม่อยากเข้าใกล้ 298 00:28:32,320 --> 00:28:39,240 และเศษพืชกับละอองเกสร ก็ร่วงลงไปในซี่โครงของซากนั้น 299 00:28:39,240 --> 00:28:40,840 ในตอนที่เหลือแต่กระดูก 300 00:28:44,360 --> 00:28:49,040 ผมคิดว่าเรื่องราวของโซเลกกี เป็นเรื่องที่วิเศษมากนะ 301 00:28:51,960 --> 00:28:55,560 ผมคิดว่าตอนนี้เราเข้าใจรายละเอียดเพียงพอ 302 00:28:55,560 --> 00:28:58,080 ที่จะรู้ว่าเรื่องราวนั้นไม่ถูกต้อง 303 00:28:59,240 --> 00:29:00,440 ไม่ว่าจะมองยังไง 304 00:29:08,600 --> 00:29:15,120 แต่ผมคิดว่าแนวคิดเรื่องมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล เอาใจใส่ผู้ที่ตายไป 305 00:29:15,120 --> 00:29:17,560 เรื่องที่พวกเขาอาจคุ้มครองผู้ตาย... 306 00:29:21,520 --> 00:29:24,200 ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ไกลจาก 307 00:29:24,960 --> 00:29:28,400 สิ่งที่เขาเคยพูดไว้ ในทางใดสักทาง 308 00:29:33,520 --> 00:29:38,680 ราล์ฟ โซเลกกีค้นพบพิธีฝังดอกไม้ในปี 1960 309 00:29:40,560 --> 00:29:42,920 เขาวางแผนไว้ว่าจะกลับไปที่นั่นในปีถัดมา 310 00:29:43,640 --> 00:29:47,360 แต่เขาจะไม่ขุดค้นชานิดาร์อีก 311 00:29:56,080 --> 00:29:58,960 ชาวเคิร์ดเป็นเจ้าถิ่นในพื้นที่ภูเขา 312 00:29:58,960 --> 00:30:01,520 ที่นั่น รถถังของอิรักเข้าไปไม่ถึงตัวพวกเขา 313 00:30:04,120 --> 00:30:07,680 {\an8}นี่ไม่ใช่สหรัฐฯ สู้กับอิรัก 314 00:30:08,360 --> 00:30:09,800 {\an8}ตู้ม เข้าเป้า 315 00:30:09,800 --> 00:30:11,960 {\an8}นี่คืออิรักสู้กับทั้งโลก 316 00:30:17,120 --> 00:30:18,720 {\an8}(สงครามอิรัก 2003 - 2011) 317 00:30:19,520 --> 00:30:22,320 นี่คือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง 318 00:30:25,240 --> 00:30:26,760 หมดยุคซัดดัม 319 00:30:28,840 --> 00:30:30,680 {\an8}เมื่อเผชิญกับการโจมตีด้วยอาวุธสมัยใหม่ 320 00:30:30,680 --> 00:30:34,640 รัฐเคาะลีฟะฮ์หัวรุนแรง ตอนนี้ถูกกองกําลังล้อมไว้แล้ว 321 00:30:40,160 --> 00:30:46,000 ในช่วงต้นยุค 2010 ด้วยความที่สถานการณ์ได้สงบลงไปมากแล้ว 322 00:30:46,000 --> 00:30:49,400 รัฐอิสลามกําลังพบจุดจบ 323 00:30:49,400 --> 00:30:53,480 รัฐบาลแคว้นเคิร์ดติดต่อจึงได้ ศาสตราจารย์แกรม บาร์เกอร์ 324 00:30:53,480 --> 00:30:56,920 เพื่อเริ่มการขุดค้นครั้งใหม่ที่ถ้ําชานิดาร์ 325 00:30:59,040 --> 00:31:01,760 เราไม่ได้คาดหวัง ว่าจะเจอซากมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 326 00:31:01,760 --> 00:31:05,960 และนั่นไม่ใช่เป้าหมายของโครงการ แต่เป้าหมายคือการปรับปรุง 327 00:31:05,960 --> 00:31:07,360 งานที่โซเลกกีได้ทําไว้ 328 00:31:09,800 --> 00:31:12,600 ก็เลยเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ 329 00:31:12,600 --> 00:31:18,200 เมื่อทีมได้ค้นพบ โครงกระดูกนีแอนเดอร์ทาลในปี 2018 330 00:31:18,200 --> 00:31:22,000 ซึ่งเป็นรายแรกที่ค้นพบในทุกไซต์ในรอบ 25 ปี 331 00:31:24,920 --> 00:31:27,760 สิ่งแรกที่ปรากฏให้เห็นคือส่วนศีรษะ 332 00:31:27,760 --> 00:31:32,000 ซึ่งน่าตื่นเต้นมาก มันเป็นส่วนเบ้าตา 333 00:31:34,800 --> 00:31:39,240 และมันมีลักษณะของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลที่ชัดมาก 334 00:31:39,240 --> 00:31:42,200 นั่นคือโหนกคิ้วของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล จะหนากว่าเราเยอะ 335 00:31:45,800 --> 00:31:48,640 และส่วนที่อยู่ข้างใต้นั้น คือแขนซ้าย 336 00:31:49,960 --> 00:31:52,840 แขนซ้ายเหมือนพับงอไว้ด้านล่าง 337 00:31:52,840 --> 00:31:56,200 พาดข้ามลําตัว และซุกไว้ใต้ศีรษะ 338 00:31:59,120 --> 00:32:01,240 วิทยาการสมัยใหม่ประเมินอายุ 339 00:32:01,240 --> 00:32:04,440 ว่าอยู่ในกลุ่มการค้นพบที่เก่าแก่ที่สุดของโซเลกกี 340 00:32:07,040 --> 00:32:10,000 {\an8}(ตายเมื่อ 75,000 ปีก่อน) 341 00:32:10,000 --> 00:32:16,040 {\an8}ฉันว่าเรากําหนดแนวคิด ของเมื่อ 75,000 ปีก่อนได้ค่อนข้างยาก 342 00:32:17,120 --> 00:32:19,480 ถ้าคิดถึงสิ่งที่เรารู้ จากประวัติศาสตร์ที่มีการจดบันทึก 343 00:32:19,480 --> 00:32:20,880 นั่นอาจดูยาวนานมากทีเดียว 344 00:32:20,880 --> 00:32:24,640 และในแง่ประวัติศาสตร์สายพันธุ์ของเรา นั่นคือเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น 345 00:32:34,040 --> 00:32:38,120 พอลองคิดดูว่าโลกในช่วงเวลานั้น เคยเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง 346 00:32:38,120 --> 00:32:40,200 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลสาบสูญไป 347 00:32:40,200 --> 00:32:43,080 มนุษย์ยุคใหม่ได้ขยายอาณานิคมไปทั่วโลก ไม่ว่าด้วยเหตุดีหรือร้าย 348 00:32:44,560 --> 00:32:48,400 เกษตรกรรม เมือง วิถีชีวิตแบบเมือง ลัทธิล่าอาณานิคมของยุโรป 349 00:32:49,800 --> 00:32:50,680 {\an8}(พันธบัตรเสรีภาพ) 350 00:32:50,680 --> 00:32:53,200 ความเลวร้ายของศตวรรษที่ 20 351 00:33:12,680 --> 00:33:14,360 ตลอดช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวล 352 00:33:16,680 --> 00:33:18,000 เขาคนนี้ หรือเธอคนนี้... 353 00:33:23,240 --> 00:33:26,120 นอนนิ่ง แบนราบเหมือนแพนเค้ก 354 00:33:30,560 --> 00:33:32,480 อยู่ใต้หินก้อนมหึมา 355 00:33:34,520 --> 00:33:38,200 แล้วเราก็บังเอิญมาเจอเข้า แม้ความเป็นไปได้จะน้อยมาก 356 00:33:43,360 --> 00:33:47,760 {\an8}(ชานิดาร์แซด) 357 00:33:50,720 --> 00:33:54,400 นี่คือการค้นพบครั้งใหญ่ในชั่วอายุคน แบบไม่คิดไม่ฝัน 358 00:34:00,640 --> 00:34:02,760 กะโหลกศีรษะถูกบดขยี้อย่างรุนแรง 359 00:34:02,760 --> 00:34:05,880 อันที่จริงทั้งศีรษะถูกทับจนแบน 360 00:34:05,880 --> 00:34:08,200 หนาประมาณสองสามเซนติเมตร 361 00:34:12,880 --> 00:34:14,320 กระจัดกระจาย 362 00:34:15,920 --> 00:34:17,160 บอบบางมาก 363 00:34:21,400 --> 00:34:27,080 แค่เอาแปรงปัด ก็อาจทําให้มันพังทลายและหายไปได้ 364 00:34:27,080 --> 00:34:29,520 ดังนั้นเราต้องดําเนินการอย่างระมัดระวัง 365 00:34:29,520 --> 00:34:30,960 ชิ้นนั้นคือส่วนไหน 366 00:34:30,960 --> 00:34:33,280 ด้านหน้าของขากรรไกรล่าง 367 00:34:34,040 --> 00:34:37,920 และฟันล่างส่วนใหญ่ แต่ไม่ทั้งหมด 368 00:34:37,920 --> 00:34:41,200 เรานํามันออกมาเป็นส่วนเล็กๆ พร้อมกับตะกอนทั้งหมด 369 00:34:41,200 --> 00:34:42,760 เพื่อช่วยให้มันคงสภาพไว้ 370 00:34:45,200 --> 00:34:48,240 ต้องใช้ความอุตสาหะสูงมาก และนั่นคือเหตุที่ควร 371 00:34:48,240 --> 00:34:49,680 เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว 372 00:34:50,400 --> 00:34:53,240 โดยธรรมชาติแล้ว โบราณคดีทําให้เกิดความเสียหาย 373 00:34:53,880 --> 00:34:55,440 ลองได้ขุดค้นแล้วสักครั้ง 374 00:34:56,200 --> 00:34:57,560 ก็จะทําอีกครั้งไม่ได้ 375 00:35:02,920 --> 00:35:06,480 จากนั้นก็มีการนํากล่องเล็กๆ พวกนั้น กลับมาที่อังกฤษ 376 00:35:07,240 --> 00:35:09,400 เพื่อที่เราจะได้ปะติดปะต่อมันเข้าด้วยกัน 377 00:35:19,560 --> 00:35:24,400 (มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร) 378 00:35:26,680 --> 00:35:29,240 ทีมเราเป็นทีมเล็ก แต่เป็นทีมที่ยอดมาก 379 00:35:29,760 --> 00:35:31,520 ผู้คนแห่กันมาจากทั่วโลก 380 00:35:35,120 --> 00:35:37,520 พอทําความสะอาด และเสริมความแข็งแรงให้กระดูกแล้ว 381 00:35:37,520 --> 00:35:39,280 ฉันก็จะมีส่วนต่างๆ 382 00:35:39,280 --> 00:35:43,800 และเริ่มทําการบูรณะ ซึ่งก็คือการต่อจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ 383 00:35:43,800 --> 00:35:46,040 {\an8}(ดร.ลูเซีย โลเปซ-โปลิน) 384 00:35:46,040 --> 00:35:48,440 {\an8}(นักอนุรักษ์ โครงการถ้ําชานิดาร์) 385 00:35:48,560 --> 00:35:51,760 ชิ้นแรกคือส่วนที่ง่าย 386 00:35:54,040 --> 00:35:56,240 จากนั้นมันจะเริ่มซับซ้อนขึ้น 387 00:36:01,200 --> 00:36:02,720 เราต้องอดทน 388 00:36:05,680 --> 00:36:09,760 เพราะในมือเราคือตัวอย่างที่มีชิ้นเดียว 389 00:36:12,160 --> 00:36:14,360 เป็นความรับผิดชอบที่หนักมาก 390 00:36:16,160 --> 00:36:18,200 ถ้าประกอบกะโหลกศีรษะเข้าด้วยกันได้ 391 00:36:18,960 --> 00:36:22,960 ทางทีมก็หวังจะประกอบใบหน้า ของชานิดาร์แซดขึ้นมาใหม่ได้ 392 00:36:25,480 --> 00:36:29,440 กะโหลกยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ให้เบาะแสได้มากมาย 393 00:36:31,720 --> 00:36:34,040 วันนี้เก็บคราบหินปูนค่ะ 394 00:36:34,040 --> 00:36:37,640 คราบหินปูนที่ก่อตัวขึ้นบนฟันของชานิดาร์แซด 395 00:36:45,840 --> 00:36:49,760 คราบหินปูนคือชั้นแข็งๆ ที่เกาะอยู่บนฟัน 396 00:36:49,760 --> 00:36:52,960 {\an8}หมอฟันจะบอกให้คุณไปขูดออกปีละครั้ง 397 00:36:55,360 --> 00:36:57,760 มันก่อตัวขึ้นในปากเราโดยธรรมชาติ 398 00:36:57,760 --> 00:37:02,000 ในตอนที่ก่อตัวขึ้น มันจะดักเอาทุกสิ่งที่เข้าไปในปากเราไว้ด้วย 399 00:37:03,240 --> 00:37:06,880 เราจึงสามารถหาข้อมูลจากคราบนี้ได้เยอะมาก 400 00:37:31,560 --> 00:37:34,560 มีความเชื่อมายาวนานว่า 401 00:37:34,560 --> 00:37:38,880 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลเป็นนักล่าที่เก่งมาก 402 00:37:38,880 --> 00:37:41,840 กินเนื้อ เนื้อ แล้วก็เนื้อ 403 00:37:48,360 --> 00:37:54,200 แต่ในช่วงสิบถึง 20 ปีที่ผ่านมานี้เอง เราได้มาตระหนักว่า 404 00:37:54,200 --> 00:37:57,960 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาล ที่จริงแล้วกินพืชด้วย 405 00:38:10,400 --> 00:38:13,320 การรู้วิธีเปลี่ยนของดิบที่มีพิษ 406 00:38:13,320 --> 00:38:16,640 ให้กลายเป็นของที่กินได้ และมีคุณค่าทางโภชนาการ 407 00:38:17,600 --> 00:38:20,520 นั่นคือทักษะที่ต้องเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต 408 00:38:24,520 --> 00:38:30,800 และถ้าเราจะเอาผู้หาอาหารในยุคสมัยใหม่ มาเป็นตัวอย่าง 409 00:38:30,800 --> 00:38:33,480 ถ้างั้น คนที่ถนัดด้านการสะสมองค์ความรู้ 410 00:38:33,480 --> 00:38:34,840 น่าจะเป็นผู้หญิง 411 00:38:42,440 --> 00:38:47,200 เมื่อเราฟื้นฟูพืช ที่มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลกินขึ้นมาใหม่ 412 00:38:51,720 --> 00:38:57,360 เราอาจจะได้กรอบมุมมอง ถึงบทบาทของผู้หญิงในสังคมของพวกเขาก็ได้ 413 00:39:03,560 --> 00:39:06,600 เราจะไม่มีวันรู้เรื่องราวทั้งหมดของพวกเขา เราจะไม่มีวันรู้ชื่อ 414 00:39:07,120 --> 00:39:08,600 ความหวังและความฝันของพวกเขา 415 00:39:11,880 --> 00:39:15,080 แต่น่าทึ่งนะ การได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 416 00:39:15,080 --> 00:39:20,000 ที่ทําให้เรามองเห็นชีวิตของพวกเขาอีกครั้ง แม้จะแค่เศษเสี้ยวก็ตาม 417 00:39:28,480 --> 00:39:31,120 แล้วเราก็จะสงสัยว่า "คนคนนี้เป็นใคร" 418 00:39:31,120 --> 00:39:34,040 "เป็นคนแบบไหน เรื่องราวชีวิตเป็นยังไง" 419 00:39:34,040 --> 00:39:36,000 "มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง" 420 00:39:40,080 --> 00:39:42,840 ฉันว่ามันยากมากนะที่จะมองให้เห็น 421 00:39:42,840 --> 00:39:46,960 ว่าหน้าตาของคนคนนั้นเป็นยังไง โดยดูจากสภาพกะโหลกศีรษะ 422 00:39:49,240 --> 00:39:51,240 นี่แหละคือตอนที่เราต้องพึ่งพาทักษะอันน่าทึ่ง 423 00:39:51,240 --> 00:39:53,520 ของคนอย่างพี่น้องเคนนิส 424 00:39:56,640 --> 00:39:59,520 (อาร์เน็ม เนเธอร์แลนด์) 425 00:40:04,800 --> 00:40:08,040 นี่คือกะโหลก หรือข้อมูลที่เอ็มม่าส่งมาให้เรา 426 00:40:08,040 --> 00:40:11,840 เป็นกะโหลกที่เกือบสมบูรณ์ ถือว่าสมบูรณ์ดี และนี่คือที่พิมพ์ออกมาแล้ว 427 00:40:11,840 --> 00:40:14,080 - ทีนี้เราก็ได้เห็นเขาแล้ว - ว้าว 428 00:40:14,080 --> 00:40:16,560 {\an8}เราคือพี่น้องเคนนิส 429 00:40:16,560 --> 00:40:20,960 {\an8}พี่น้องเคนนิสเป็นฝาแฝดที่หลงใหล ในเรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์ 430 00:40:20,960 --> 00:40:22,520 ดูซิ ดูที่จมูกสิ 431 00:40:22,520 --> 00:40:25,720 มีลักษณะของจมูกมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล และที่เห็นคือ 432 00:40:25,720 --> 00:40:28,480 อีกด้านของจมูกแคบมาก 433 00:40:28,480 --> 00:40:31,080 เราฟื้นฟูบูรณะมนุษย์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว 434 00:40:31,080 --> 00:40:32,960 พยายามทําให้คนเห็น 435 00:40:32,960 --> 00:40:37,400 ว่าบรรพบุรุษยุคแรกๆ น่าจะหน้าตาเป็นยังไงในชีวิตจริง 436 00:40:37,400 --> 00:40:40,480 - ตาโต หน้าเชิดสูง จมูกเล็ก - ตาโต ใช่ 437 00:40:40,480 --> 00:40:46,160 ดูเหมือนแว่นตาเลย แว่นตาอันใหญ่เบิ้ม 438 00:40:46,160 --> 00:40:49,080 ถ้าใส่ขากรรไกรล่างเข้าไป ก็จะดูเหมือน... 439 00:40:50,160 --> 00:40:52,000 สมัยเรียนเราได้คะแนนไม่ดี 440 00:40:52,000 --> 00:40:53,640 เราไม่ค่อยอ่านหนังสือ 441 00:40:53,640 --> 00:40:57,360 เราไปที่ห้องสมุด แล้วเห็นภาพมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลสวยๆ 442 00:40:59,240 --> 00:41:01,760 เห็นได้ทันทีเลย ฟันที่สึกไปแล้ว สุดยอด 443 00:41:01,760 --> 00:41:03,760 - ฟันที่สุดยอด - สมกับเป็นนีแอนเดอร์ทาล 444 00:41:03,760 --> 00:41:07,520 - พวกเขาใช้ฟันเหมือนใช้คีมจับ ใช่ - คีมจับ เหมือนเครื่องมือ 445 00:41:07,520 --> 00:41:09,040 เราคิดว่ามันมีเสน่ห์มาก 446 00:41:09,040 --> 00:41:13,560 การที่หน้า หน้าของลิงไม่มีหาง เปลี่ยนแปลงมาเป็นหน้าคน 447 00:41:21,120 --> 00:41:23,480 สําหรับเรา สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับ มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลคือ 448 00:41:23,480 --> 00:41:26,080 พวกเขามีจมูกที่ใหญ่โต 449 00:41:27,200 --> 00:41:28,760 ใบหน้าบวมใหญ่ 450 00:41:29,320 --> 00:41:34,000 ในวิวัฒนาการของมนุษย์ เราไม่เคยเห็นใบหน้าใหญ่และประหลาดแบบนี้ 451 00:41:34,880 --> 00:41:36,560 มหัศจรรย์มากที่ได้เห็น 452 00:41:45,920 --> 00:41:50,120 ส่วนใหญ่เราจะได้กะโหลกมา และส่วนใหญ่กะโหลกจะบิดเบี้ยว 453 00:41:51,560 --> 00:41:53,400 เราจะแก้ไขกะโหลก 454 00:41:53,400 --> 00:41:57,160 ทําให้มันสมบูรณ์ด้วยวิธีการทางนิติเวช 455 00:42:03,960 --> 00:42:07,920 เมื่อกะโหลกสมบูรณ์แล้ว เราก็จะใส่เนื้อเยื่อหนาๆ เข้าไป 456 00:42:09,120 --> 00:42:11,080 ใส่กล้ามเนื้อ และเนื้อหนัง 457 00:42:14,000 --> 00:42:16,840 เติมชั้นผิวหนังเข้าไป 458 00:42:20,080 --> 00:42:22,160 {\an8}ผมอยากทําให้พวกเขาดูเหมือนมนุษย์ 459 00:42:22,160 --> 00:42:25,640 {\an8}ไม่ใช่เหมือนมนุษย์แบบโหดเกิน แต่ไม่จําเจเกิน 460 00:42:42,840 --> 00:42:44,040 เอามาได้เลย 461 00:42:46,800 --> 00:42:49,240 หวังว่าหลายๆ คนจะได้เห็นใบหน้านี้ 462 00:42:49,240 --> 00:42:52,000 และได้เห็นว่ามันแปลกแค่ไหน 463 00:42:53,520 --> 00:42:56,240 พวกเขามีลักษณะที่แปลกประหลาดมาก 464 00:42:57,640 --> 00:43:01,120 เป็นลักษณะที่แปลกตามาก เพราะขนาดสมองเขาเท่ากับเรา 465 00:43:01,120 --> 00:43:04,360 พวกเขาเป็นมนุษย์เหมือนเรา แต่ก็มีความแตกต่าง 466 00:43:04,360 --> 00:43:06,840 นั่นคือสิ่งที่มีเสน่ห์ ทําไมพวกเขาถึงแตกต่าง 467 00:43:09,120 --> 00:43:12,000 นี่คือวิวัฒนาการที่จะว่าคู่ขนานมากับเราก็ได้ 468 00:43:13,520 --> 00:43:15,520 - เรียบร้อย - ใช่ เรียบร้อย โอเค 469 00:43:15,520 --> 00:43:18,880 แล้วทําไมสายพันธุ์หนึ่งถึงหายไป ทําไมสายพันธุ์หนึ่งถึงยังอยู่ 470 00:43:18,880 --> 00:43:22,000 น่าสนใจมาก นั่นคือเราในอีกสายพันธุ์หนึ่ง 471 00:43:29,280 --> 00:43:32,360 ในอดีต เราคิดว่า "เราอีกสายพันธุ์หนึ่ง" 472 00:43:32,360 --> 00:43:36,040 ไม่ฉลาดเท่าสายพันธุ์ของเราเอง 473 00:43:41,920 --> 00:43:48,680 มีเพียงโฮโมเซเปียนส์เท่านั้น ที่สามารถจินตนาการ สร้างสรรค์ ประดิษฐ์ 474 00:44:00,800 --> 00:44:03,000 แต่อคตินี้ถูกทลายลงไปแล้ว 475 00:44:03,000 --> 00:44:09,360 โดยสิ่งที่ถูกค้นพบในถ้ําลับที่แสนพิสดาร ที่ฝรั่งเศส 476 00:44:11,040 --> 00:44:14,960 {\an8}(บรูนิเกล ฝรั่งเศส) 477 00:44:22,560 --> 00:44:26,840 ก่อนอื่นก็ต้องผ่านที่แคบๆ นี้ 478 00:44:29,600 --> 00:44:33,200 ต้องระวังให้มากกับลักษณะการเข้าไป 479 00:44:33,200 --> 00:44:35,560 ดันกระเป๋าไปข้างหน้า 480 00:44:56,400 --> 00:44:58,400 แล้วเราก็จะเข้าไปยังอีกโลกหนึ่ง 481 00:45:14,440 --> 00:45:17,800 การเข้าไปในถ้ําคือการกระทําที่ผิดธรรมชาติมาก 482 00:45:23,440 --> 00:45:26,880 ถ้ําคือที่ที่ผู้คนกลัว 483 00:45:35,360 --> 00:45:37,600 ยิ่งที่บริเวณท้ายถ้ํา 484 00:45:50,880 --> 00:45:54,120 {\an8}ถ้ํานี้อยู่มานานมากแล้ว 485 00:45:55,320 --> 00:45:57,280 น่าจะอายุหนึ่งล้านปีได้ 486 00:45:58,080 --> 00:46:01,520 นั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกเมื่อเข้าไปในถ้ํา 487 00:46:02,040 --> 00:46:06,240 สภาพแวดล้อมที่อยู่มายาวนานมาก 488 00:46:10,400 --> 00:46:14,880 พอเข้าไปลึกอีกหน่อย ก็จะเจอทะเลสาบที่สงบนิ่ง 489 00:46:20,120 --> 00:46:22,360 รูปทรงของถ้ําแห่งนั้นเกิดจาก 490 00:46:23,120 --> 00:46:28,480 น้ําที่หยดลงมา และก่อตัวเป็นหินงอกหินย้อยที่สวยงาม 491 00:46:34,080 --> 00:46:36,240 สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ... 492 00:46:37,640 --> 00:46:40,560 คุณจะเห็นว่ามันมีทํานองว่าลวดลายอยู่ 493 00:46:41,800 --> 00:46:43,840 นี่คือรูปทรงวงกลม 494 00:46:55,000 --> 00:46:58,160 ไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้ในถ้ําตามธรรมชาติ 495 00:47:06,960 --> 00:47:08,320 มันถูกสร้างไว้อย่างดี 496 00:47:08,320 --> 00:47:09,880 (ศาสตราจารย์ฌักส์ ฌอแบรต์) 497 00:47:09,880 --> 00:47:11,720 (นักโบราณคดี มหาวิทยาลัยบอร์กโดซ์) 498 00:47:11,720 --> 00:47:15,920 {\an8}เราเข้าใจว่ามีเทคนิคทางสถาปัตยกรรม 499 00:47:24,080 --> 00:47:28,640 องค์ประกอบชิ้นเล็กๆ ที่บีบอัดหินงอกชิ้นใหญ่ๆ ไว้ 500 00:47:31,960 --> 00:47:35,840 ทั้งหมดนี้มีการวางโครงสร้างและคิดมาอย่างดี 501 00:47:46,480 --> 00:47:52,040 สําหรับนักโบราณคดี มันเฉพาะตัวมาก ไม่เหมือนอะไรอย่างอื่นเลย 502 00:48:01,960 --> 00:48:04,720 ในโครงสร้างวงกลมที่ใหญ่ที่สุดตรงนั้น 503 00:48:04,720 --> 00:48:09,160 มีเตาไฟที่ดีมากๆ ทําจากหินงอก 504 00:48:12,200 --> 00:48:15,520 ตรงนี้มีการเปลี่ยนอุณหภูมิ แต่ไม่ใช่แค่ที่เดียว 505 00:48:15,520 --> 00:48:17,680 มีเยอะเลยที่... 506 00:48:17,680 --> 00:48:20,280 - เราเห็นตรงกันว่านั่นคือเตา - มันคือเตาไฟ 507 00:48:20,280 --> 00:48:21,480 มันคือเตาไฟ 508 00:48:24,720 --> 00:48:30,760 มีหลายตําแหน่งที่เคยเกิดไฟ ในช่วงเวลาหนึ่ง 509 00:48:33,240 --> 00:48:34,240 หมายเลข 38 510 00:48:34,240 --> 00:48:37,720 บริเวณตรงกลาง 511 00:48:37,720 --> 00:48:40,560 เหมือนที่เราจะทําเวลาไปตั้งแคมป์ 512 00:48:40,560 --> 00:48:46,000 เราจะหาไม้มาก่อกองไฟ เป็นทรงพีระมิด 513 00:48:46,000 --> 00:48:47,920 ที่ยอดข้างบนแหลม 514 00:48:47,920 --> 00:48:51,280 น่าตื่นเต้นมาก เพราะเราเห็นร่องรอยของเขม่า 515 00:48:51,280 --> 00:48:53,440 การเปลี่ยนแปลงความร้อน 516 00:48:53,440 --> 00:48:57,000 มีเขม่าที่ดํามาก สีแดง สีม่วง 517 00:49:03,480 --> 00:49:07,760 แน่นอนว่า ในสังคมดั้งเดิม หรือยุคก่อนประวัติศาสตร์ 518 00:49:07,760 --> 00:49:10,200 เรารู้ว่าไฟมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ 519 00:49:32,480 --> 00:49:38,360 เราพบเศษไม้ชิ้นเล็กมากๆ ที่ไหม้อยู่บนพื้น 520 00:49:41,040 --> 00:49:44,760 แปลว่า พวกเขาอาจเข้าไปในถ้ําพร้อมคบไฟ 521 00:49:50,280 --> 00:49:53,400 ถ้าเราไปอยู่กลางถ้ําโดยไม่มีแสงสว่าง 522 00:49:53,400 --> 00:49:54,840 จะเป็นอันตรายมากๆ 523 00:49:56,440 --> 00:49:58,840 ดังนั้นเราต้องสื่อสารกันให้ดี 524 00:50:10,920 --> 00:50:13,840 ต้องควบคุมไฟให้ดี 525 00:50:18,480 --> 00:50:19,520 คุมแสงสว่าง 526 00:50:26,960 --> 00:50:30,760 ความคิดแรกคือการหาอายุโครงสร้างพวกนี้ 527 00:50:43,280 --> 00:50:46,080 นี่คือแกนจากถ้ําบรูนิเกล 528 00:50:46,080 --> 00:50:51,200 แกนพวกนี้บอกให้เรารู้ถึง อายุของโครงสร้างเหล่านั้น 529 00:50:54,680 --> 00:50:57,160 เมื่อศึกษาแกนต่างๆ หกแกน 530 00:50:57,160 --> 00:51:02,600 เราก็ได้รู้อายุที่แน่นอน นั่นคือ 176,500 ปี 531 00:51:03,200 --> 00:51:06,640 ซึ่งน่าทึ่งมากจริงๆ 532 00:51:12,000 --> 00:51:14,600 หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นห้าพันปีก่อน ในยุโรป 533 00:51:14,600 --> 00:51:16,360 มีแค่เหล่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 534 00:51:18,080 --> 00:51:22,520 บรูนิเกลเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่เรามองเห็นได้ 535 00:51:31,440 --> 00:51:34,360 พอเห็นโครงสร้างเหล่านี้แล้ว อารมณ์ก็ตื้นตันมาก 536 00:51:34,360 --> 00:51:38,040 ยิ่งได้รู้ด้วยว่ามันอยู่มานานมาก 537 00:51:51,160 --> 00:51:55,120 คําถามที่เกิดขึ้นซ้ําๆ ที่วนกลับมาคือ 538 00:51:55,120 --> 00:51:56,600 "โครงสร้างมีไว้เพื่ออะไร" 539 00:52:20,400 --> 00:52:23,720 รูปทรงวงกลมมองดูเหมือนโลก 540 00:52:23,720 --> 00:52:28,000 แปลว่าเราอยู่ในโลก และนอกโลก แนวคิดประมาณนั้น 541 00:52:30,640 --> 00:52:35,080 ในวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอเมริกัน ถ้าเห็นวงกลมแบบนี้ 542 00:52:35,080 --> 00:52:38,840 แปลว่าผู้คนเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณที่สูงกว่า 543 00:52:49,680 --> 00:52:51,920 นี่คือจุดกําเนิดของศาสนาเหรอ 544 00:53:01,360 --> 00:53:05,720 นี่เป็นคําถามสําคัญ แต่หาคําตอบได้ยากมาก 545 00:53:20,240 --> 00:53:25,440 ทีละนิด เรามองเห็นมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 546 00:53:27,320 --> 00:53:30,200 เป็นมนุษยชาติที่อยู่มาก่อนเรา 547 00:53:32,600 --> 00:53:38,000 ซึ่งมีส่วนที่คล้ายคลึงกันกับมนุษย์ยุคใหม่ มากขึ้นเรื่อยๆ 548 00:53:52,360 --> 00:53:54,240 ดังนั้น ด้วยสิ่งที่พบในถ้ําบรูนิเกล 549 00:53:55,640 --> 00:54:02,640 ทําให้เราได้กระชับความสัมพันธ์ ของเรากับบรรพบุรุษจากอดีตอันไกลโพ้น 550 00:54:11,880 --> 00:54:15,920 วงกลมปริศนาที่บรูนิเกลคือส่วนสําคัญ 551 00:54:15,920 --> 00:54:19,920 ต่อการประเมินวัฒนธรรมนีแอนเดอร์ทาล ที่ยังดําเนินอยู่... 552 00:54:25,720 --> 00:54:28,120 เริ่มต้นขึ้นที่ชานิดาร์ 553 00:54:28,760 --> 00:54:31,480 และต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ 554 00:54:44,800 --> 00:54:48,240 ปีนี้เราพบชิ้นส่วนเล็กๆ สองสามชิ้น 555 00:54:48,240 --> 00:54:51,160 ที่เราคิดว่าอาจเป็นโครงกระดูกชิ้นเดี่ยวๆ 556 00:54:53,200 --> 00:54:55,240 เราอาจพบอีกคนแล้วก็ได้ 557 00:54:57,240 --> 00:54:59,840 มีสะบักไหล่ซ้าย 558 00:55:00,840 --> 00:55:03,720 มีมือขวาที่สมบูรณ์พอควร 559 00:55:07,720 --> 00:55:10,280 สิ่งที่เราพบที่จริงแล้วคือนิ้วสี่นิ้ว 560 00:55:10,280 --> 00:55:13,080 ประมาณนี้ อยู่ในตําแหน่งที่น่าจะเป็นในร่างกาย 561 00:55:13,080 --> 00:55:15,000 เราเรียกว่าส่วนที่เป็นข้อ 562 00:55:15,600 --> 00:55:19,040 ซากใหม่ อยู่ท่ามกลางกลุ่มซาก 563 00:55:19,040 --> 00:55:23,880 ซึ่งมีทั้งชานิดาร์สี่ และชานิดาร์แซด 564 00:55:26,400 --> 00:55:27,720 น่าตื่นเต้นมาก 565 00:55:27,720 --> 00:55:31,720 เพราะนี่คือหลักฐานว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 566 00:55:31,720 --> 00:55:35,400 วางศพไว้ตรงจุดนี้โดยเฉพาะ 567 00:55:39,160 --> 00:55:43,640 พวกเขาอาจกลับมาที่จุดเดิมนี้ ในหลายๆ วาระรึเปล่า 568 00:55:43,640 --> 00:55:47,400 อาจห่างกันนานหลายทศวรรษ หรือหลายพันปี 569 00:55:48,800 --> 00:55:50,360 เราเริ่มตั้งคําถามว่า 570 00:55:50,360 --> 00:55:56,400 "นี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือเป็นไปได้ว่ามีเจตนา" 571 00:55:57,640 --> 00:56:01,240 และเพราะอะไร อะไรที่ทําให้พวกเขากลับมาที่นี่ 572 00:56:10,000 --> 00:56:15,800 ตอนที่ชานิดาร์แซดถูกฝัง มีก้อนหินก้อนนึงอยู่หลังศีรษะเขา 573 00:56:18,400 --> 00:56:22,280 ซึ่งน่าสนใจ เพราะมันดูไม่เข้าบริบท 574 00:56:24,760 --> 00:56:27,960 ดังนั้น แนวคิดที่เราไตร่ตรองกันก็คือ 575 00:56:27,960 --> 00:56:30,920 หรือว่าจะมีคนจงใจเอาหินก้อนนั้นไปไว้ตรงนั้น 576 00:56:37,880 --> 00:56:39,800 สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ 577 00:56:39,800 --> 00:56:43,200 ที่ด้านข้างของร่างนั้น มีแผ่นหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ 578 00:56:52,680 --> 00:56:56,080 เห็นได้ชัดว่า ถ้ามีแผ่นหินตั้งตระหง่านอยู่บนพื้น 579 00:56:56,080 --> 00:56:59,640 ก็มีความเป็นไปได้ว่า มันอาจเป็นเครื่องหมายบอกตําแหน่ง 580 00:57:04,400 --> 00:57:07,480 ดูเหมือนว่ามีใครสักคนถูกฝังอยู่ตรงนี้ 581 00:57:07,480 --> 00:57:09,920 และพวกเขากลับมาด้วยเหตุผลนั้น 582 00:57:11,000 --> 00:57:14,320 กลับมายังจุดนี้ ที่บอกตําแหน่งด้วยหินที่สะดุดตา 583 00:57:14,320 --> 00:57:16,480 ในถ้ําที่มีลักษณะสะดุดตา 584 00:57:24,760 --> 00:57:27,600 ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนว่า ราล์ฟ โซเลกกี 585 00:57:27,600 --> 00:57:32,640 เป็นคนแรกที่พบว่าถ้ําชานิดาร์ เป็นสถานที่สําคัญของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 586 00:57:38,880 --> 00:57:41,280 พวกเขาวางศพผู้ตาย 587 00:57:41,280 --> 00:57:42,720 พวกเขาอยู่ในโลก 588 00:57:42,720 --> 00:57:46,520 ที่พวกเขากลับมาที่นี่เนืองๆ และอาศัยอยู่ที่นี่ 589 00:57:50,400 --> 00:57:55,560 ซากกลุ่มนี้อาจเป็นหลักฐาน ที่ชี้ถึงพื้นที่ฝังศพของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 590 00:57:56,440 --> 00:57:59,560 การค้นพบที่มีนัยยะลึกซึ้ง 591 00:58:02,080 --> 00:58:05,000 การปฏิบัติต่อคนที่ตายไป 592 00:58:05,000 --> 00:58:11,120 คือข้อมูลสําคัญที่ทําให้เห็นถึง การคิด จินตนาการ อารมณ์ความรู้สึก 593 00:58:13,760 --> 00:58:17,880 อาจสะท้อนให้เห็นว่าเราคิดยังไงกับความตาย 594 00:58:18,840 --> 00:58:22,920 และเราเชื่อว่า มีโลกหลังความตายรึเปล่า เป็นต้น 595 00:58:26,200 --> 00:58:32,480 มันช่วยให้เข้าใจถึงความซับซ้อน ของวัฒนธรรมนีแอนเดอร์ทาลมากขึ้น 596 00:58:34,080 --> 00:58:35,240 แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีอยู่ 597 00:58:40,840 --> 00:58:45,440 การฝังศพเป็นเพียงร่องรอยล่าสุด ของพฤติกรรมมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 598 00:58:45,440 --> 00:58:48,760 ที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในถ้ําอันน่าทึ่งแห่งนี้ 599 00:58:54,400 --> 00:58:59,080 แต่ความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอาจยังคงอยู่ 600 00:59:04,400 --> 00:59:10,920 ทําไมมนุษยชาติสายพันธุ์หนึ่ง ที่เคยรุ่งเรืองเมื่อสามแสนปีก่อน ถึงสาบสูญไป 601 00:59:12,320 --> 00:59:14,120 เมื่อสี่หมื่นปีที่แล้ว 602 00:59:20,760 --> 00:59:23,480 บางทีสถานที่ที่เหมาะจะค้นหาคําตอบที่สุด 603 00:59:23,480 --> 00:59:26,720 อาจอยู่ที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน 604 00:59:26,720 --> 00:59:30,520 หนึ่งในฐานที่มั่นสุดท้ายของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 605 00:59:32,120 --> 00:59:35,840 {\an8}(ยิบรอลตาร์) 606 00:59:38,240 --> 00:59:40,760 ที่เรานั่งอยู่คือริมหน้าผา 607 00:59:42,720 --> 00:59:45,400 {\an8}ใกล้กับจุดที่เพื่อนคนนึงเรียกว่า เมืองนีแอนเดอร์ทาล 608 00:59:47,640 --> 00:59:50,920 เพราะนี่คือแนวถ้ําที่เรียงรายอยู่ริมน้ํา 609 00:59:50,920 --> 00:59:52,920 ที่ฝั่งตะวันออกของร็อกออฟยิบรอลตาร์ 610 00:59:58,040 --> 01:00:01,200 กลุ่มถ้ํากอร์แฮมคือถ้ําใหญ่น้อยอยู่ที่เรียงราย 611 01:00:01,840 --> 01:00:04,600 และถ้ําทุกแห่งมีหลักฐานที่ชัดเจน 612 01:00:04,600 --> 01:00:08,600 ว่าเคยมีมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล มาอยู่อาศัยเป็นระยะเวลานาน 613 01:00:18,600 --> 01:00:23,160 เรามีการค้นพบ ที่ย้อนหลังไปอย่างน้อย 125,000 ปีที่แล้ว 614 01:00:28,760 --> 01:00:30,840 ทีมค้นคว้าได้พบหลักฐาน 615 01:00:30,840 --> 01:00:36,680 ว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทาลเคยใช้ถ้ําแห่งนี้ เมื่อ 40,000 ปีก่อน 616 01:00:43,200 --> 01:00:46,200 ในช่วง 100,000 ปีที่พวกเขามีชีวิตอยู่ 617 01:00:46,200 --> 01:00:49,440 โลกของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 618 01:01:07,040 --> 01:01:09,200 สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างโหดร้าย 619 01:01:09,200 --> 01:01:11,400 พวกเขาผ่านยุคน้ําแข็งยุคแรกๆ มา 620 01:01:11,400 --> 01:01:15,120 แต่ยุคสุดท้ายอาจมีผลกระทบที่รุนแรงที่สุด 621 01:01:15,120 --> 01:01:17,760 แผ่นน้ําแข็งสแกนดิเนเวียขยายออกไปทางใต้ 622 01:01:18,880 --> 01:01:22,120 ฝรั่งเศสและยุโรปกลางมีภูมิประเทศ แบบทุ่งหญ้าสเตปป์จนถึงทุนดรา 623 01:01:23,280 --> 01:01:25,240 เป็นโลกที่โหดร้ายมาก 624 01:01:28,520 --> 01:01:30,840 ทุนดราไม่ได้ขยายไปจนสุดทางใต้ 625 01:01:31,680 --> 01:01:33,880 ี้ แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด 626 01:01:34,400 --> 01:01:38,360 เมื่ออากาศหนาวจัด น้ําปริมาณมากจะกลายเป็นน้ําแข็ง 627 01:01:38,360 --> 01:01:41,440 อยู่ในแผ่นน้ําแข็ง ธารน้ําแข็ง ส่งผลให้ระดับน้ําทะเลลดลง 628 01:01:45,280 --> 01:01:47,680 เมื่อระดับน้ําทะเลต่ํากว่าปัจจุบัน 629 01:01:47,680 --> 01:01:50,160 ก็น่าจะเห็นที่ราบกว้างใหญ่ 630 01:01:50,160 --> 01:01:53,200 ที่มีสัตว์กินพืชอาศัยอยู่ 631 01:01:53,200 --> 01:01:55,080 ที่มีนกอาศัยอยู่ 632 01:01:55,080 --> 01:01:58,240 มีทะเลสาบน้ําตื้น มีน้ําจืด 633 01:02:01,480 --> 01:02:05,280 พวกเขารู้แน่ชัดว่าตนกินอะไรสายพันธุ์ไหนได้บ้าง 634 01:02:05,280 --> 01:02:09,240 จะหาได้จากที่ไหน นํามาทํายังไงถึงจะดีที่สุด 635 01:02:11,520 --> 01:02:14,200 นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ ของกระดูกทั้งหมด 636 01:02:14,200 --> 01:02:16,720 และซากทั้งหมดที่เราพบในถ้ํานั้น 637 01:02:16,720 --> 01:02:21,840 มีวัตถุโบราณหลายหมื่นชิ้น ที่เราพบในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา 638 01:02:24,160 --> 01:02:26,720 พวกเขากินสัตว์ที่เราไม่คาดคิด 639 01:02:26,720 --> 01:02:29,320 {\an8}สัตว์ที่ปกติไม่เชื่อมโยงกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 640 01:02:31,880 --> 01:02:35,880 เรามีหลักฐานว่า พวกเขาลงไปตามชายฝั่งที่เต็มไปด้วยหิน 641 01:02:35,880 --> 01:02:37,280 และเก็บหอยทะเล 642 01:02:37,280 --> 01:02:39,640 อันที่จริง ฉันมีหอยทะเลอยู่นี่ด้วย 643 01:02:39,640 --> 01:02:44,120 ยังมีเครื่องมือที่ทําจากหินเหล็กไฟติดคาอยู่เลย 644 01:02:44,120 --> 01:02:46,920 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลทิ้งมันไว้แบบนี้ 645 01:02:49,440 --> 01:02:54,040 แต่แล้วเราก็ได้กระดูกชิ้นนี้ซึ่ งมาจากโลมาปากขวด 646 01:02:55,200 --> 01:02:57,000 มีรอยบากอยู่ 647 01:02:58,760 --> 01:03:03,280 บางทีโลมาอาจตายและเกยตื้นบนฝั่ง แต่พวกเขาแล่เอาเนื้อมัน 648 01:03:03,920 --> 01:03:05,840 แล่เนื้อเพื่อการบริโภค 649 01:03:10,720 --> 01:03:15,160 มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลอยู่ในยุโรป นานกว่าที่เราอยู่กันมา 650 01:03:15,160 --> 01:03:16,200 เรื่องนั้นแน่นอน 651 01:03:23,960 --> 01:03:26,760 สําหรับฉัน นั่นบอกให้รู้ว่าพวกเขามีปัญญา 652 01:03:26,760 --> 01:03:29,080 และเข้าใจสภาพแวดล้อม 653 01:03:34,240 --> 01:03:36,920 พวกเขาประสบความสําเร็จอย่างสูงในเรื่องนั้น 654 01:03:42,840 --> 01:03:46,720 นีแอนเดอร์ทาลเป็นมนุษย์ พวกเขารู้จักปรับตัว 655 01:03:46,720 --> 01:03:48,520 เหมือนกับพวกเราค่อนข้างมาก 656 01:03:49,160 --> 01:03:51,720 แต่แล้ววันหนึ่ง ทุกอย่างก็มาถึงจุดสิ้นสุด 657 01:03:55,120 --> 01:03:58,040 ซึ่งทําให้ปริศนาการหายตัวไป ของพวกเขายิ่งล้ําลึก 658 01:03:58,880 --> 01:04:04,360 ถ้านีแอนเดอร์ทาลที่ยิบรอลตาร์ รู้จักปรับตัวจนอยู่มาได้นาน 659 01:04:05,200 --> 01:04:06,800 แล้วมันเกิดผิดพลาดที่ตรงไหน 660 01:04:07,680 --> 01:04:11,960 เมื่อคิดถึงยุคน้ําแข็ง คนจะคิดว่ามันหนาว ซึ่งก็หนาว 661 01:04:11,960 --> 01:04:13,880 แต่มันก็แห้งด้วย 662 01:04:15,520 --> 01:04:18,880 การเปลี่ยนแปลงหนึ่ง ที่นีแอนเดอร์ทาลในยิบรอลตาร์ต้องเจอ 663 01:04:18,880 --> 01:04:24,720 คือการที่วงศ์ต้นไม้หนึ่งหายไป 664 01:04:30,040 --> 01:04:32,200 ต้นไม้อื่นก็มี แล้วทําไมต้นไม้วงศ์นั้นถึงสําคัญ 665 01:04:32,200 --> 01:04:36,280 เพราะต้นไม้พวกนั้ย ช่วยให้เราซุ่มโจมตีเหยื่อขนาดใหญ่ได้ 666 01:04:41,320 --> 01:04:44,280 เมื่อเวลาผ่านไป ลักษณะทางกายภาพของพวกเขา 667 01:04:44,280 --> 01:04:48,360 ก็พัฒนาไปเป็นรูปร่างที่คล้ายกับนักมวยปล้ํา 668 01:04:48,360 --> 01:04:51,680 สามารถกระโดดขึ้นคร่อมสัตว์พวกนั้นได้ พร้อมหอกในมือ 669 01:04:51,680 --> 01:04:54,320 ใช้หอกแทง ฆ่าสัตว์พวกนั้นได้ 670 01:04:58,760 --> 01:05:02,040 แล้วจู่ๆ โลกก็กลายเป็นพื้นที่เปิดโล่ง 671 01:05:02,040 --> 01:05:05,600 พวกสัตว์เห็นเราตั้งแต่ไกลๆ เข้าใกล้พวกมันไม่ได้ 672 01:05:10,160 --> 01:05:11,720 เมื่อความเปลี่ยนแปลงมาถึง 673 01:05:11,720 --> 01:05:15,240 มันเปลี่ยนเร็วมากจน ชีววิทยาของพวกเขาปรับตัวตามไม่ทัน 674 01:05:29,680 --> 01:05:31,320 และนั่นคือสิ่งที่เล่นงานพวกเขา 675 01:05:42,320 --> 01:05:45,760 เรามักจะมองว่าตัวเองคือ จุดสูงสุดของวิวัฒนาการ 676 01:05:45,760 --> 01:05:48,160 เรามองตัวเองอย่างนั้นมาตลอด 677 01:05:48,160 --> 01:05:51,520 เวลาเปรียบเทียบกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลก็ด้วย เราอยู่รอด พวกเขาไม่รอด 678 01:05:51,520 --> 01:05:53,520 เพราะพวกเราเหนือกว่าพวกเขา 679 01:05:54,280 --> 01:06:00,840 เราอาจปรับตัวได้เร็วมาก อาจใช้ชีวิตบนโลกได้เป็นอย่างดี 680 01:06:00,840 --> 01:06:03,520 อย่างที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้ 681 01:06:04,280 --> 01:06:08,200 แต่เรื่องราวนี้บอกเราว่า การเป็นมนุษย์ยังมีวิถีทางอื่นๆ อีก 682 01:06:08,200 --> 01:06:10,960 และวิถีทางเหล่านั้นบางทีก็อาจไปไม่รอด 683 01:06:15,840 --> 01:06:18,440 เราอาจคิดว่าเราอยู่บนโลกนี้ได้สบายๆ 684 01:06:18,440 --> 01:06:19,640 แต่ขอให้รู้ตัวไว้ 685 01:06:26,760 --> 01:06:32,360 ประมาณ 40,000 ปีก่อน จํานวนมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลดิ่งลดอย่างรวดเร็ว 686 01:06:33,280 --> 01:06:38,560 ไม่ใช่แค่ในยิบรอลตาร์ แต่ทั่วทั้งโลก 687 01:06:42,520 --> 01:06:45,800 สภาพภูมิอากาศเปลี่ยน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทําให้พวกเขาลดจํานวน 688 01:06:48,560 --> 01:06:54,520 แต่ก็มีปัจจัยการแข่งขันที่สูงขึ้น จากอีกหนึ่งสายพันธุ์ 689 01:06:59,480 --> 01:07:05,360 จนถึงทุกวันนี้ เราทุกคนมี ดีเอ็นเอมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลในตัว 690 01:07:09,320 --> 01:07:12,760 มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ 691 01:07:16,840 --> 01:07:21,280 เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งแสนปี โฮโมเซเปียนส์จํานวนมาก 692 01:07:21,280 --> 01:07:25,760 ได้อพยพจากแอฟริกาไปยังยุโรปและเอเชีย 693 01:07:29,360 --> 01:07:32,880 ได้เผชิญหน้ากับนีแอนเดอร์ทาล ในการเดินทาง 694 01:08:03,280 --> 01:08:06,640 การเผชิญหน้าบางครั้งอาจรุนแรง 695 01:08:44,680 --> 01:08:49,680 แต่บางครั้งก็อาจเปี่ยมสันติ 696 01:08:54,080 --> 01:08:59,160 คนกลุ่มหนึ่งตระหนักถึง ความเป็นมนุษย์ของคนอีกกลุ่ม 697 01:09:08,840 --> 01:09:10,960 เส้นทางของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่นี้ 698 01:09:10,960 --> 01:09:14,520 น่าจะนําโฮโมเซเปียนส์ไปทั่วตะวันออกกลาง 699 01:09:17,480 --> 01:09:23,880 ใกล้กับสถานที่ฝังศพบรรพบุรุษ ของนีแอนเดอร์ทาลแถบชานิดาร์ 700 01:09:38,520 --> 01:09:42,920 ยีนมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล มีอยู่ในโฮโมเซเปียนส์หลายคน 701 01:09:46,240 --> 01:09:51,160 และผมเชื่อจริงๆ ว่าเราเป็นญาติกัน 702 01:09:51,160 --> 01:09:53,920 เรามีสายเลือดเดียวกัน 703 01:09:53,920 --> 01:09:56,080 มีบรรพบุรุษเดียวกัน 704 01:10:04,800 --> 01:10:07,840 สิ่งหนึ่งที่ฉันหลงใหลเกี่ยวกับโบราณคดี 705 01:10:07,840 --> 01:10:10,440 คือวิถีความเป็นมนุษย์ที่หลากหลาย 706 01:10:12,600 --> 01:10:16,200 การพิจารณาดูโครงกระดูกของผู้คน 707 01:10:16,200 --> 01:10:20,000 สามารถบอกเราได้ว่าพวกเขามีชีวิตยังไง พบเจออะไรมาในโลก 708 01:10:22,920 --> 01:10:26,160 ระหว่างการขุดค้นชานิดาร์แซด เราได้เห็นลักษณะบางอย่าง 709 01:10:26,160 --> 01:10:28,800 ที่บ่งบอกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ 710 01:10:28,800 --> 01:10:32,160 แต่เราไม่รู้ว่าเขาตายตอนอายุเท่าไร 711 01:10:32,160 --> 01:10:34,440 เราไม่รู้ว่าเขาเป็นชายหรือหญิง 712 01:10:34,440 --> 01:10:37,600 และเราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับชีวิตเขา 713 01:10:40,680 --> 01:10:44,720 มีคําถามทํานองนั้นมากมาย ซึ่งเรากําลังหาคําตอบอยู่ 714 01:10:46,400 --> 01:10:51,200 ตรงนี้คือกระดูกแขนด้านซ้าย นี่คือกระดูกปลายแขนท่อนหนึ่ง 715 01:10:52,480 --> 01:10:56,040 เราบอกได้เลยว่าคนคนนี้มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก 716 01:10:56,640 --> 01:11:02,400 น่าจะสูงสักเมตรครึ่ง หรือ 155 ถึง 160 เซนฯ 717 01:11:03,360 --> 01:11:05,920 หรือว่าเกิน 152 เซนฯ มานิดหน่อย 718 01:11:08,400 --> 01:11:12,640 เรามีส่วนของกรามล่าง ขากรรไกรล่าง กับฟันบางส่วน 719 01:11:12,640 --> 01:11:15,960 สิ่งสําคัญที่ควรสังเกตคือ ฟันหลายซี่ทีเดียว 720 01:11:15,960 --> 01:11:19,760 โดยเฉพาะฟันหน้าตรงนี้ มีภาวะสึกอย่างมาก 721 01:11:20,760 --> 01:11:21,840 นั่นคือเคลือบฟัน 722 01:11:22,360 --> 01:11:25,760 ที่สึกจนหมด ทุกซี่เลย 723 01:11:27,040 --> 01:11:30,640 แน่นอนค่ะ เรารู้ว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทาลที่ฟันสึกขนาดนี้ 724 01:11:30,640 --> 01:11:32,640 ต้องเป็นคนที่อายุมากแล้ว 725 01:11:33,400 --> 01:11:36,480 อาจจะสัก 40 ถึง 50 ปี 726 01:11:42,280 --> 01:11:46,280 มีหลายวิธีที่สามารถใช้บอกเพศ ของคนคนนั้นได้ โดยดูจากโครงกระดูก 727 01:11:47,720 --> 01:11:50,880 เราใช้เทคนิคที่เรียกว่าโปรตีโอมิกส์ 728 01:11:50,880 --> 01:11:53,440 ซึ่งเป็นการวิเคราะห์โปรตีน 729 01:11:53,440 --> 01:11:55,040 ที่อยู่ในเคลือบฟัน 730 01:11:55,040 --> 01:11:59,400 เพราะเรารู้ว่ามีโปรตีนบางตัวที่ผลิตออกมา 731 01:11:59,400 --> 01:12:01,320 ในระหว่างการก่อตัวของเคลือบฟัน 732 01:12:01,320 --> 01:12:05,560 ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เข้ารหัสโดย 733 01:12:05,560 --> 01:12:08,720 สิ่งที่อยู่บนโครโมโซมเอ็กซ์ เทียบกับสิ่งที่อยู่บนโครโมโซมวาย 734 01:12:11,200 --> 01:12:15,360 ผลของมันบ่งชี้ค่อนข้างชัดเจน ว่าคนคนนี้เป็นเพศหญิง 735 01:12:21,640 --> 01:12:25,760 บ่อยครั้งที่เรานึกภาพ มนุษย์นีแอนเดอร์ทาลเป็นเพศชาย 736 01:12:25,760 --> 01:12:30,560 หรือเรามักจะสนใจแต่ลักษณะพฤติกรรมเพศชาย 737 01:12:32,800 --> 01:12:37,120 นี่เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นมาก ที่จะได้ทําความเข้าใจสังคมนีแอนเดอร์ทาล 738 01:12:37,120 --> 01:12:38,440 ให้รอบด้านยิ่งขึ้น 739 01:12:45,120 --> 01:12:47,840 ฉันคิดว่าการบูรณะ 740 01:12:47,840 --> 01:12:52,440 ว่าผู้หญิงชาวนีแอนเดอร์ทาลคนนี้ น่าจะมีหน้าตายังไง 741 01:12:52,440 --> 01:12:55,280 ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ จะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก 742 01:12:57,040 --> 01:13:00,520 - ครับ ดร.โพเมรอย - เรามาดูกัน 743 01:13:01,920 --> 01:13:03,680 ทํามาเสร็จแล้วหนึ่งคน 744 01:13:04,880 --> 01:13:05,720 ใช่ 745 01:13:13,440 --> 01:13:14,760 จะเริ่มจากตรงนี้นะ 746 01:13:21,720 --> 01:13:23,120 - โห ว้าว - ว้าว 747 01:13:26,600 --> 01:13:28,120 - ค่ะ - ก็... 748 01:13:28,800 --> 01:13:31,880 น่าทึ่งมาก หันเธอไปอีกด้านดีกว่านะ ทุกคนจะได้มองเห็น 749 01:13:33,040 --> 01:13:33,960 ว้าว 750 01:13:36,440 --> 01:13:37,600 เธอมองฉันด้วย 751 01:13:37,600 --> 01:13:41,120 กําลังมองเลย คนที่ใช้เวลากับเธอนานที่สุด น่าจะเป็นคุณ ก็เลย... 752 01:13:42,120 --> 01:13:44,720 - แล้วก็จมูก จําจมูกได้ไหมกับ... - ค่ะ 753 01:13:45,560 --> 01:13:47,080 - น่าทึ่งมาก - ใช่ 754 01:13:47,080 --> 01:13:49,560 น่าสนใจนะ ที่สองคนนั้นจัดให้เธอมีสีหน้าแบบนี้ 755 01:13:49,560 --> 01:13:52,360 ที่แฝงอารมณ์ความรู้สึกไว้ 756 01:13:52,360 --> 01:13:56,000 ฉันคิดว่านั่นแหละคือเสน่ห์ของการบูรณะในสาขานี้ 757 01:13:56,000 --> 01:13:59,600 บางคนก็ชอบจับผิด 758 01:13:59,600 --> 01:14:02,200 บอกว่า "เราไม่มีทางรู้หรอก ว่าคนเขาหน้าตายังไง" 759 01:14:02,200 --> 01:14:05,960 เราต้องตั้งสมมติฐานหลายอย่าง ซึ่งจริงมากๆ 760 01:14:05,960 --> 01:14:12,240 แต่ ฉันว่ามันให้ความรู้สึกว่าเธอเป็นคนคนหนึ่ง 761 01:14:17,840 --> 01:14:21,560 เธอมีหัวใจสําคัญนั้น ว่าการเป็นมนุษย์มีความหมายยังไง 762 01:14:21,560 --> 01:14:24,760 การเป็นมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลอาจหมายถึงอะไร 763 01:14:24,760 --> 01:14:27,080 เหมือนเราพอจะได้เห็น... 764 01:14:27,840 --> 01:14:31,120 ไม่รู้สิ ประวัติชีวิตอันลึกซึ้งของบุคคลนี้ 765 01:14:39,280 --> 01:14:44,120 {\an8}ผู้สูงอายุ ที่มีความรู้ และประสบการณ์ 766 01:14:44,960 --> 01:14:48,440 {\an8}ที่รู้ว่าสถานที่ที่น่าอยู่คือที่ไหน 767 01:14:51,880 --> 01:14:55,080 ความทรงจํานั้น ไม่ว่าจะอยู่แค่ในหัวของเธอ 768 01:14:55,080 --> 01:14:58,080 หรือไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่อยู่ในหัวของเธอ 769 01:14:58,080 --> 01:15:01,280 ที่เธอแบ่งปันผ่านบทเพลงและเรื่องราวต่างๆ 770 01:15:01,280 --> 01:15:03,840 ให้กับลูกๆ และหลานๆ 771 01:15:03,840 --> 01:15:06,680 คงจะสําคัญกับคนกลุ่มนี้มาก 772 01:15:08,280 --> 01:15:14,280 ในหลายๆ แง่ นี่คือจุดเริ่มต้นของอารยธรรม ในความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า 773 01:15:14,280 --> 01:15:16,800 การที่ใครสักคนก่อสร้างอาคารเป็นครั้งแรก 774 01:15:16,800 --> 01:15:18,200 หรืออะไรทํานองนั้น 775 01:15:23,440 --> 01:15:27,520 เธอน่าจะมีบทบาทในการเป็นคลังความรู้ 776 01:15:27,520 --> 01:15:31,680 มีส่วนสําคัญในการถ่ายทอดความรู้นั้น ให้กับคนรุ่นต่อไป 777 01:15:31,680 --> 01:15:35,600 และอีก 75,000 ต่อไป มาถึงรุ่นเรา 778 01:15:36,880 --> 01:15:39,680 ก็ยังได้เรียนรู้จากเธออยู่ 779 01:15:55,320 --> 01:15:59,560 ถ้ําชานิดาร์สอนอะไรเรามากมาย เกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทาล 780 01:16:00,240 --> 01:16:02,040 ตอนนี้ก็ยังสอนเราอยู่ 781 01:16:07,160 --> 01:16:11,800 แต่มันทําให้เราได้ไตร่ตรองว่า การเป็นมนุษย์คืออะไร 782 01:16:15,960 --> 01:16:19,320 สิ่งต่างๆ เช่น การเห็นอกเห็นใจกัน 783 01:16:22,400 --> 01:16:24,400 การรับมือกับความตาย 784 01:16:27,280 --> 01:16:30,280 และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราทุกคน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 785 01:16:38,720 --> 01:16:41,280 ตอนนี้เรามีภาพสแนปช็อต 786 01:16:41,280 --> 01:16:43,920 ที่น่าทึ่งและให้ข้อมูลมากมาย 787 01:16:43,920 --> 01:16:46,120 แต่เรายังไม่มีภาพรวมทั้งหมด 788 01:16:46,120 --> 01:16:49,400 ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ 789 01:16:52,240 --> 01:16:56,960 เกี่ยวกับความเข้าใจของเราในเรื่อง "การเป็นมนุษย์" และ "มนุษยชาติ" 790 01:18:56,040 --> 01:18:59,680 {\an8}คําบรรยายโดย อัจฉริยา สุกใส